สุขสันต์สำหรับการเริ่มต้นเดือนใหม่สำหรับเพื่อนผู้อ่านทุกท่านนะครับ เดือนนี้คือเดือนมีนาคม
หากนับตามปฏิทินฮีบรูก็จะตรงกับเดือน "อาดาร์"(Adar) ปี 5777
(ช่วงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 27 มีนาคม 2017)
คำว่า "อาดาร์ "(Adar -אֲדָר) หมายถึง "พละกำลัง","ความแข็งแรง”(strength)
เดือนอาดาร์ เป็นเดือนที่ 6 ตามปฎิทินยิวแบบราชการ(Civil Calendar) และเป็นเดือนที่ 12 ตามปฏิทินยิวแบบศาสนา(Ecclesiastical Calendar) เป็นเดือนสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ในเดือนนิสาน(Nisan)
ในปีพิเศษที่เรียกว่า ปีอธิกมาส (leap year) จะมีเดือนอาดาร์ 2 เดือน เดือนอาดาร์ที่ 1 หรือ “อาดาร์ อาเลฟ” (אֲדָר א) จะมี 30 วัน เดือนอาดาร์ที่ 2 หรือ “อาดาร์ เบท” ( אֲדָר ב) จะมี 29 วัน ทั้งนี้เนื่องจากปฏิทินฮีบรูเป็นการนับปฏิทินแบบจันทรคติ จะมีการนับเดือนจันทรคติที่ 13 โดยการเพิ่ม 7 ครั้งในทุก 19 ปี เข้าไปในเดือนจันทรคติที่ 12 เพื่อให้ไม่เกิดการคาดเคลื่อนของฤดูกาลต่างๆ
เดือนอาดาร์ เป็นเดือนที่ 6 ตามปฎิทินยิวแบบราชการ(Civil Calendar) และเป็นเดือนที่ 12 ตามปฏิทินยิวแบบศาสนา(Ecclesiastical Calendar) เป็นเดือนสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ในเดือนนิสาน(Nisan)
ในปีพิเศษที่เรียกว่า ปีอธิกมาส (leap year) จะมีเดือนอาดาร์ 2 เดือน เดือนอาดาร์ที่ 1 หรือ “อาดาร์ อาเลฟ” (אֲדָר א) จะมี 30 วัน เดือนอาดาร์ที่ 2 หรือ “อาดาร์ เบท” ( אֲדָר ב) จะมี 29 วัน ทั้งนี้เนื่องจากปฏิทินฮีบรูเป็นการนับปฏิทินแบบจันทรคติ จะมีการนับเดือนจันทรคติที่ 13 โดยการเพิ่ม 7 ครั้งในทุก 19 ปี เข้าไปในเดือนจันทรคติที่ 12 เพื่อให้ไม่เกิดการคาดเคลื่อนของฤดูกาลต่างๆ
เราได้เรียนรู้จักลักษณะของเผ่าต่างๆประจำเดือนของอิสราเอลกันอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนนิสาน(Nisan) เผ่ายูดาห์ จนถึงเดือนนี้เดือนอาดาร์(Adar) เผ่านัฟทาลี โดยผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านบทความที่เขียนไว้ตาม Link นี้ครับ
(สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์, อิสสาคาร์ - ลาที่มีกำลังกล้าหาญ,เศบูลุน-เรือสำเภามุ่งสู่จุดหมาย,รูเบน - บุตรชายสายน้ำเชี่ยว,สิเมโอน กระบี่ในใจที่ร้ายกาจ,กาด นักรบผู้เก่งฉกาจ, เอฟราอิม-กระทิงแห่งศักดิ์ศรี, มนัสเสห์- ช่อมะกอกที่ออกผล,เบนยามิน -สุนัขป่า นักล่า, ดาน สันดานงูพิษ,อาเชอร์ ต้นไม้ริมธารน้ำ)
ผมได้ตั้งชื่อเผ่าของอิสราเอล
พงศ์พันธุ์ของยาโคบเป็นภาษาไทยเพื่อให้จดจำได้ ดังนี้
รูเบน-"สมชาย", สิเมโอน -"สดับฟัง", เลวี-"สนิทใจ", ยูดาห์-"สรรเสริญ",
อิสสาคาร์-"สินชัย",เศบูลุน-"สมเกียรติ", กาด -"สบโชค",
โยเซฟ-"เสริมพล", มนัสเสห์ -"สิ้นโศก", เอฟราอิม -"เสริมพงศ์", เบนยามิน-"ศักดิ์ชาย",
อาเชอร์- "สุขใจ",นัฟทาลี- "สมชัย", ดีนาห์- "แสนดี"
ในเดือนอาดาร์ก็เช่นเดียวกัน เราสามารถเรียนรู้จากเผ่านัฟทาลี(Naphali)
นัฟทาลี (Naphali- נַפְתָּלִי) เป็นบุตรชายคนที่ 6 ของยาโคบ(อิสราเอล) โดยผ่านการตั้งครรภ์ของนางบิลฮาห์ สาวใช้ของนางราเชล เป็นบุตรคนที่ 2 ต่อจากดาน
ปฐมกาล 30:7-8
7 บิลฮาห์สาวใช้ของนางราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
7 บิลฮาห์สาวใช้ของนางราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
8 นางราเชลจึงว่า “ข้าพเจ้าปล้ำสู้ กับพี่สาวของข้าพเจ้าเสียใหญ่โต และข้าพเจ้าได้ชัยชนะแล้ว” นางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า นัฟทาลี
ดังนั้น ชื่อ “นัฟทาลี” จึงหมายถึง
การต่อสู้ ...และชัยชนะ! อุปสรรค (struggle)ของนางราเชล ที่เธอแข่งขันชิงดีกันกับนางเลอาห์เพื่อจะเอาชนะใจสามีคือ ยาโคบ ชนะใจก็จริงแต่ไม่ใช่ชนะจริงที่ใสสะอาด
ผมตั้งชื่อ"นัฟทาลี" เป็นชื่อภาษาไทยว่า "สมชัย" เพราะนัฟทาลีเป็นชัยชนะที่สมใจอยากของนางราเชล
Genesis 49:21 Naphtali is a free running doe, he speaks delightful words.
ปฐมกาล 49:21 นัฟทาลีเป็นกวางตัวเมียที่ปลดปล่อย เขากล่าวคำอันไพเราะ (ฉบับไทย คิง เจมส์)
นัฟทาลีเป็นกวางตัวเมีย ในภาษาอังกฤษใช้ว่า "doe" (ผมนึกถึงบทเพลงหัดร้องดนตรี โดเรมี...จากหนังเรื่อง The sound of music ร้องว่า Doe, a deer, a female deer. Ray, a drop of golden sun...)
กวาง มีรูปร่างงดงาม ปราดเปรียว เป็นสัตว์สะอาดไม่เป็นมลทิน(Kosher)ตามธรรมบัญญัติ(ลนต.11)ใช้เป็นอาหารได้ ชอบอยู่รวมตัวกันเป็ นฝูง
อัตลักษณ์ของเผ่านัฟทาลี เป็นภาพกวางตัวเมียที่กระโดดออกมาจากถูกจับกุม และวิ่งออกมาอย่างมีเสรีภาพด้วยพระคุณ นอกจากนี้นัฟทาลียังเป็นผู้ “กล่าวคำอันไพเราะ” ดังนั้นนัฟทาลีจึงมีถ้อยคำที่ไพเราะ
“นัฟทาลี” เป็นศิลปิน เป็นเผ่าแห่งนักประพันธ์ เป็นนักเต้นรำและนักเขียนบทกวี
เมื่อกษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างพระวิหาร พระองค์ทรงให้ฮีรามซึ่งแม่ของเขามาจากเผ่านัฟทาลี
เพื่อที่จะทำงานช่างทองแดง (1 พกษ.7:12-14)
เผ่านัฟทาลียังเป็นนักรบอีกด้วย เรียกว่า "นัฟทาลี เป็นนักรบที่ห้าวหาญ และนักรักที่หวานซึ้ง" (อารมณ์ประมาณเพลงจากหนังเรื่อง "สายโลหิต" ที่ร้องว่า "ออกศึกข้านึกแต่รบ จบศึก ข้านึกแต่รักพระเจ้าเท่านั้น " :)
เผ่านัฟทาลียังเป็นนักรบอีกด้วย เรียกว่า "นัฟทาลี เป็นนักรบที่ห้าวหาญ และนักรักที่หวานซึ้ง" (อารมณ์ประมาณเพลงจากหนังเรื่อง "สายโลหิต" ที่ร้องว่า "ออกศึกข้านึกแต่รบ จบศึก ข้านึกแต่รักพระเจ้าเท่านั้น " :)
ในพระธรรมฮาบากุก 3:19
กล่าวว่า “พระองค์ทรงทำให้เท้าของข้าพเจ้าเหมือนตีนกวางตัวเมีย พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าเดินไปบนที่สูงทั้งหลาย
…
พระธรรมฮาบากุก ใช้คำที่เกี่ยวข้องกับการคำเผยพระวจนะของยาโคบอธิบายว่านัฟทาลีเป็นนักรบแห่งชัยชนะ!
เผ่านัฟทาลีมีเท้าที่เกาะอย่างมั่นคงและเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว! พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแต่เก่งด้านศิลปะและความงดงามเท่านั้น แต่พวกเขาถูกเรียกมาเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับศัตรูและมีชัยชนะ!
เผ่านัฟทาลี เป็นกวางยอดนักสู้
การเคลื่อนทัพของอิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร |
การตั้งที่พำนักของกองทัพอิสราเอล |
เมื่อคนอิสราเอลตั้งค่ายล้อมพลับพลา(Tabernacle) เผ่านัฟทาลีถูกจัดวางอยู่ทางด้านทิศเหนือของค่ายพร้อมกับเผ่าดานและเผ่าอาเชอร์ เพื่อปกป้องชนชาติอิสราเอล เนื่องจากการโจมตีจากศัตรูมักจะโจมตีจากทางทิศเหนือ
ในผู้วินิฉัยบทที่ 4 เราเห็นว่า "บาราค" (Barak) มาจากเผ่านัฟทาลี เขาได้รับเลือกจากพระยาห์เวห์ที่จะนำกำลังทหาร 10,000 นายของเผ่าของเขา ต่อสู้กับคานาอันที่เข้ามากดขี่ข่มเหงพวกเขา ด้วยความช่วยเหลือของเดโบราห์ พวกเขาจึงได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่
ผู้วินิฉัย
4:6 นางใช้คนไปเรียก บาราค บุตรอาบีโนอัม
ให้มาจากเคเดชในนัฟทาลีและกล่าวแก่เขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลมิได้ทรงบัญชาท่านหรือว่า ‘ไปซิรวบรวมพลไว้ที่ภูเขาทาโบร์ จงเกณฑ์จากเผ่านัฟทาลีและเผ่าเศบูลุนหนึ่งหมื่นคน
ในบทเพลงเพลงของเดโบราห์, เผ่านัฟทาลีได้รับการยกย่องสำหรับความกล้าหาญ ในการรบชนะสิเสราและคานาอัน
ในบทเพลงเพลงของเดโบราห์, เผ่านัฟทาลีได้รับการยกย่องสำหรับความกล้าหาญ ในการรบชนะสิเสราและคานาอัน
ผู้วินิฉัย 5:18 เศบูลุนเป็นเผ่าที่เสี่ยงชีวิตเข้าสู่ความตาย ฝ่ายนัฟทาลีก็ทำเช่นกัน ณ ที่สูง ในสนามรบ
ในหนังสือผู้วินิจฉัยบทที่ 6-7 เมื่อกิเดโอนยกกองทัพของเขา เผ่านัฟทาลีตอบสนองเข้าร่วมรบได้อย่างรวดเร็ว คนอิสราเอลจากเผ่านัฟทาลี ร่วมกันขับไล่พวกคนมีเดียน
ในหนังสือผู้วินิจฉัยบทที่ 6-7 เมื่อกิเดโอนยกกองทัพของเขา เผ่านัฟทาลีตอบสนองเข้าร่วมรบได้อย่างรวดเร็ว คนอิสราเอลจากเผ่านัฟทาลี ร่วมกันขับไล่พวกคนมีเดียน
ผู้วินิจฉัย 7:23
คนอิสราเอลถูกเรียกออกมาจากนัฟทาลี และจากอาเชอร์ และจากทั่วมนัสเสห์และพร้อมกันติดตามพวกมีเดียนไป
เมื่อดาวิดขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองเหนืออิสราเอล เผ่านัฟทาลีที่เป็นทหารถือโล่และหอกได้เข้าร่วมกับกษัตริย์ดาวิดที่เมืองเฮโบรน จึงเป็นกองทัพที่มีขนาดใหญ่และกองคาราวานของอาหารที่เพรียบพร้อม
เมื่อดาวิดขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองเหนืออิสราเอล เผ่านัฟทาลีที่เป็นทหารถือโล่และหอกได้เข้าร่วมกับกษัตริย์ดาวิดที่เมืองเฮโบรน จึงเป็นกองทัพที่มีขนาดใหญ่และกองคาราวานของอาหารที่เพรียบพร้อม
1 พงศาวดาร 12:34 จากคนเผ่านัฟทาลี ผู้บังคับบัญชาหนึ่งพัน ซึ่งมีคนติดโล่และหอกมาด้วยสามหมื่นเจ็ดพันคน
1 พงศาวดาร 12: 40 และผู้ที่อยู่ใกล้เขาทั้งหลายด้วยคือไกลออกไปถึงอิสสาคาร์ และเศบูลุน และนัฟทาลีได้จัดอาหารบรรทุกลา อูฐ ล่อ และวัวกับเสบียงอาหารมากมายเป็นแป้ง ขนม มะเดื่อ ช่อองุ่นแห้ง เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะว่ามีความชื่นบานในอิสราเอล
นอกจากนี้แล้วยังมีคำเผยพระวจนะอื่นๆ ที่โมเสสกล่าวถึงเผ่านัฟทาลี ว่า…
เฉลยธรรมบัญญัติ 33:23 และท่านกล่าวถึงนัฟทาลีว่า “โอ นัฟทาลี ผู้อิ่มด้วยพระคุณ และหนำด้วยพระพรของพระเจ้า จงยึดครองทะเลสาบและทางใต้”
โมเสสได้ให้คำเผยพระวจนะเกี่ยวกับดินแดนของเผ่านัฟทาลี เผ่านัฟทาลีจะได้รับมรดกในที่ดินแดนพันธสัญญา…
เมื่ออิสราเอลเข้าไปยึดดินแดนพันธสัญญา มีการจัดสรรที่ดินให้กับแต่ละเผ่าของอิสราเอล
เผ่านัฟทาลีได้รับที่ดินพื้นที่มีขนาดใหญ่ในภาคเหนือ มีพรมแดนติดกับเผ่าอาเชอร์,เศบูลุนและอิสสาคาร์ตามที่โมเสสได้พยากรณ์ไว้ว่า "เผ่านัฟทาลีจะขยายพื้นที่ไปทางทิศใต้ รอบๆทะเลสาปกาลิลี" ซึ่งป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ร่ำรวยที่สุดและมีผลผลิตมากที่สุดของดินแดนพันธสัญญา
โจเซฟัส(Josephus) นักประวัติศาตร์ชาวยิวที่มีเชื้อสายโรมันได้อธิบายว่าพื้นที่ส่วนนี้เป็นเหมือนดังดินแดนสวรรค์บนโลก ... เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยการอวยพระพรของพระเจ้า ดังนั้นนัฟทาลีจึงได้รับการอวยพระพรอย่างอัศจรรย์ตามคำเผยพระวจนะของโมเสส ที่ว่า...“โอ นัฟทาลี ผู้อิ่มด้วยพระคุณ และหนำด้วยพระพรของพระเจ้า จงยึดครองทะเลสาบและทางใต้”
เผ่านัฟทาลีได้รับที่ดินพื้นที่มีขนาดใหญ่ในภาคเหนือ มีพรมแดนติดกับเผ่าอาเชอร์,เศบูลุนและอิสสาคาร์ตามที่โมเสสได้พยากรณ์ไว้ว่า "เผ่านัฟทาลีจะขยายพื้นที่ไปทางทิศใต้ รอบๆทะเลสาปกาลิลี" ซึ่งป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ร่ำรวยที่สุดและมีผลผลิตมากที่สุดของดินแดนพันธสัญญา
โจเซฟัส(Josephus) นักประวัติศาตร์ชาวยิวที่มีเชื้อสายโรมันได้อธิบายว่าพื้นที่ส่วนนี้เป็นเหมือนดังดินแดนสวรรค์บนโลก ... เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยการอวยพระพรของพระเจ้า ดังนั้นนัฟทาลีจึงได้รับการอวยพระพรอย่างอัศจรรย์ตามคำเผยพระวจนะของโมเสส ที่ว่า...“โอ นัฟทาลี ผู้อิ่มด้วยพระคุณ และหนำด้วยพระพรของพระเจ้า จงยึดครองทะเลสาบและทางใต้”
แม้จะได้รับพระพรมากแต่เผ่านัฟทาลีก็ได้เลือกไปสู่หนทางที่ผิด
เมื่อครั้งที่เผ่าต่างๆทางตอนเหนือของอิสราเอล 10 เผ่า กบฏและแยกอาณาจักรอิสราเอลกับอาณาจักรยูดาห์ เผ่านัฟทาลีก็ไปร่วมพวกเขาด้วย! พวกเขาได้ปฏิเสธพระยาห์เวห์ พระเจ้าที่เที่ยงแท้ ไปกราบไหว้รูปเคารพ !
แม้ว่าพระเจ้าทรงให้โอกาสมากมายเพื่อให้พวกเขากลับใจใหม่ เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์จัดงานฉลองเทศกาลปัสกาครั้งใหญ่ พระองค์ส่งสารไปยังเมืองของ 10 เผ่าทางตอนเหนือ เพื่อเชิญให้พวกเขามาเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาของพระเจ้า
เมื่อครั้งที่เผ่าต่างๆทางตอนเหนือของอิสราเอล 10 เผ่า กบฏและแยกอาณาจักรอิสราเอลกับอาณาจักรยูดาห์ เผ่านัฟทาลีก็ไปร่วมพวกเขาด้วย! พวกเขาได้ปฏิเสธพระยาห์เวห์ พระเจ้าที่เที่ยงแท้ ไปกราบไหว้รูปเคารพ !
แม้ว่าพระเจ้าทรงให้โอกาสมากมายเพื่อให้พวกเขากลับใจใหม่ เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์จัดงานฉลองเทศกาลปัสกาครั้งใหญ่ พระองค์ส่งสารไปยังเมืองของ 10 เผ่าทางตอนเหนือ เพื่อเชิญให้พวกเขามาเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาของพระเจ้า
2 พงศาวดาร 30:9 เพราะถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมายังพระเจ้า พี่น้องของท่านและลูกหลานของท่านจะประสบความเอ็นดูจากผู้ที่จับเขาไปเป็นเชลย และจะได้กลับมายังแผ่นดินนี้อีก เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระเมตตาและกรุณา ถ้าท่านกลับมาหาพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงหันพระพักตร์ไปจากท่าน”
เนื่องจากการส่งสารของกษัตริย์เฮเซคียาห์ต้องผ่านจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมือง เพื่อกระตุ้นให้คนกลับใจกลับมาหาพระเจ้า แต่คนทางอาณาจักรทางตอนเหนือกลับหัวเราะเยาะและเย้ยหยัน
แทนที่จะกลับใจใหม่ ส่งผลให้พระเจ้าทรงอนุญาตให้เผ่าต่างๆทางตอนเหนือ
ถูกศัตรูบุกรุกรานเอาชนะพวกเขาและทำให้พวกเขาถูกจับไปเป็นเชลย
เนื่องจากเผ่านัพทาลีอยู่ในตำแหน่งที่ไกลทางตอนเหนือ
นัฟทาลีจึงเป็นเผ่าแรกของอาณาจักรตอนเหนือที่ถูกจับไปเป็นเชลย
แม้ว่าเผ่านัฟทาลีถูกเรียกมาเพื่อต่อสู้และมีชัยเหลือศัตรู แต่เมื่อพวกเขาหันหลังจากการติดตามพระเจ้า พวกเขาจึงตกอยู่ใต้คำแช่งสาปและศัตรูสามารถเอาชนะพวกเขาได้
ในปี 732 ก่อนคริสตกาล ทิกลัท-ปิเลเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรีย ได้ยกทัพมาและยึดครอง แผ่นดิน เผ่านัฟทาลีทั้งหมด ถูกกวาดไปเป็นเชลยที่อัสซีเรีย
ในปี 732 ก่อนคริสตกาล ทิกลัท-ปิเลเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรีย ได้ยกทัพมาและยึดครอง แผ่นดิน เผ่านัฟทาลีทั้งหมด ถูกกวาดไปเป็นเชลยที่อัสซีเรีย
2 พงศ์กษัติย์ 15:29 ในรัชกาลของเปคาห์พระราชาแห่งอิสราเอล ทิกลัทปิเลเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรียได้ยกมาและยึดเมืองอิโยน เอเบล-เบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ คาเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี แผ่นดินนัฟทาลีทั้งหมด และกวาดต้อนประชาชนเป็นเชลยไปยังอัสซีเรีย
ดินแดนของเผ่านัฟทาลี อยู่รอบๆทะเลกาลิลี |
ดังนั้นดินแดนของเผ่านัฟทาลีจึงกลายเป็นดินแดนที่น่ารังเกียจ เช่นเดียวกับแคว้นสะมาเรียของเผ่าเอฟราอิม ชาวยิวที่มาจากแคว้นยูเดียเรียกดินแดนของเผ่านัฟทาลีนี้ว่า "แคว้นกาลิลีของคนต่างชาติ ดินแดนที่อยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งความตาย"
การฟื้นฟูมาสู่ดินแดนแห่งเผ่านัฟทาลี!
ในพระธรรม 2 พงศวดาร 34:6-7 กล่าวว่า “ในหัวเมืองของเผ่ามนัสเสห์ เอฟราอิมและสิเมโอน และไปถึงนัฟทาลี ในที่ปรักหักพังซึ่งอยู่โดยรอบ
กษัตริย์โยสิยาห์ทรงทำลายแท่นบูชา และทรงทุบบรรดาอาเชราห์และรูปเคารพให้เป็นผง และทรงโค่นแท่นเครื่องหอมทั้งสิ้นลงทั่วแผ่นดินอิสราเอล ..”
นี่เป็นภาพของคนที่เหลืออยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง
และกษัตริย์โยสิยาห์ได้เข้ามาทำลายแท่นบูชาของรูปเคารพ
คนที่เหลืออยู่ของเผ่านัฟทาลีจึงได้หันกลับไปหาพระเจ้าที่เที่ยงแท้ !
ข้อคิด คือ ในคนจำนวนมากที่หลงผิดและหลงหาย แต่จะมีคนส่วนน้อยที่หลงเหลืออยู่(remnant) ที่ไม่ได้หลงผิดไป พระเจ้าจะนำการฟื้นฟู(revival)
เราจะเห็นได้ว่า ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้สูญสลายไปแล้วสำหรับเผ่านัฟทาลี! แต่แล้วผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ ปลดปล่อยถ้อยคำแห่งการฟื้นใจ ท่านกล่าวว่า พระเจ้ายังไม่เสร็จกิจสำหรับคนเผ่านัฟทาลี สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนเผ่านัฟทาลี จะมาถึงพวกเขา นั่นคือ...
เผ่านัฟทาลีกลับใจ นำความรอดมาสู่คนต่างชาติ
อิสยาห์ 9:1-2
1 เมืองนั้นซึ่งอยู่ในความแสนระทมจะไม่กลัดกลุ้ม ในกาลก่อนพระองค์ทรงนำแคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีมาสู่ความดูหมิ่น แต่ในกาลภายหลังพระองค์จะทรงกระทำให้หนทางข้างทะเล แคว้นฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน คือ กาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติให้รุ่งโรจน์
2 ชนชาติที่ดำเนินในความมืด จะได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช สว่างจะได้ส่องมาบนเขา
คำเผยพระวจนะของอิสยาห์ได้สำเร็จเป็นจริง! ในช่วงเวลาของพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่(NT) ดินแดนของเผ่านัฟทาลี
มัทธิวบทที่ 4
กล่าวถึงว่า เมื่อพระเยซูทรงได้ยินข่าวว่ายอห์น(บัพติศโต)ถูกจับตัวไปคุมขัง
พระองค์ได้เดินทางกลับไปยังแคว้นกาลิลี และออกจากเมืองนาซาเร็ธ(Nazareth) พระองค์ทรงอาศัยอยู่ในเมืองคาเปอร์นาอูม(Capernaum) อยู่ในดินแดนของเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี ซึ่งคำเผยพระวจนะสำเร็จตามถ้อยคำของ
อิยาห์ 9:1-2
เมืองนาซาเร็ธ ดินแดนของเผ่านัฟทาลีที่คนเคยดูหมิ่น แม้แต่นาธานาเอลยังกล่าวว่า "สิ่งดีอันใดจะมาจากนาซาเร็ธได้หรือ” (ยน. 1:46)
แต่นาธานาเอลและฟิลิปได้พบกับพระมาซีฮา พระผู้ช่วยให้รอดของชาวยิวที่มาจากเมืองนี้
คำเผยพระวจนะของอิสยาห์ได้สำเร็จเป็นจริง! ในช่วงเวลาของพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่(NT) ดินแดนของเผ่านัฟทาลี
พระเยซูเริ่มต้นทำพระราชกิจในดินแดนของนัฟทาลี |
อิยาห์ 9:1-2
เมืองนาซาเร็ธ ดินแดนของเผ่านัฟทาลีที่คนเคยดูหมิ่น แม้แต่นาธานาเอลยังกล่าวว่า "สิ่งดีอันใดจะมาจากนาซาเร็ธได้หรือ” (ยน. 1:46)
แต่นาธานาเอลและฟิลิปได้พบกับพระมาซีฮา พระผู้ช่วยให้รอดของชาวยิวที่มาจากเมืองนี้
นาซาเร็ธเป็นสถานที่ที่พระเยซูคริสต์ทรงเติบโต
และคาเปอร์นาอูมเป็นศูนย์กลางการรับใช้ของพระเยซู ทั้ง 2
แห่งนี้อยู่ในแคว้นนี้คือ นัฟทาลี!
พระเยซูคริสต์ทรงเริ่มต้นพระราชกิจของพระองค์ที่แคว้นนัฟทาลี และทรงเรียกสาวกพวกแรกของพระองค์ในแคว้นนี้ (มธ.4:13-22) คำเทศนาส่วนใหญ่ของพระเยซูคริสต์
ทรงเทศนาในแคว้นนัฟทาลี!
การอัศจรรย์ส่วนใหญ่ของพระองค์
ทรงกระทำในแคว้นนัฟทาลี!
เมื่อเราอ่านพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
พระองค์ทรงดำเนินรอบๆทะเลสาปกาลิลีและทรงเรียกเปโตร,ยากอบ,ยอห์นและสาวกคนอื่นๆของพระองค์ ซึ่งอยู่ในแคว้นนัฟทาลี !
มีบางคนบอกว่าอัครสาวกทั้งหมดของสาวกของพระเยซู
ยกเว้นยูดาสและเลวี(มัทธิว)มาจากเผ่านัฟทาลี!
ดังนั้นแล้วเผ่านัฟาลีซึ่งได้รับการเผยพระวจนะว่า จะกระโดดไปข้างหน้าเหมือนดังกวางตัวเมีย
ให้เราได้ออกไปปลดปล่อยข่าวดี ... และก้าวกระโดดไปข้างหน้าภายใต้สิทธิอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไปสู่คนทั้งโลก!
เมื่อเผ่านัฟทาลีมีความหยิ่งและกบฏไปร่วมกับอาณาจักรตอนเหนือ
พระเจ้าทรงอนุญาตให้พวกเขาตกไปเป็นเชลย แต่เมื่อพวกเขาถ่อมใจ
และหันกลับมาหาพระเจ้า
เป้าประสงค์ลิขิตของพระองค์ก็สำเร็จ พระเจ้าทรงกดคนที่หยิ่งลงและยกชูคนที่ถ่อมใจขึ้น
นัฟทาลี เคยถูกดูหมิ่น
และนาซาเร็ธเป็นเมืองที่ต่ำต้อยที่สุด แต่นาซาเร็ทเป็นเมืองที่พระเยซูเติบโตและแคว้นนัฟทาลีเป็นสถานที่ที่พระเยซูคริสต์ทรงเริ่มต้นพระราชกิจของพระองค์!
ให้เราป่าวประกาศการเริ่มต้นใหม่ในเดือนอาดาร์ เดือนแห่งเผ่านัฟทาลี ดังนี้
เดือนแห่งความยินดีเมื่อได้รับพระพร
อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ เฉลยธรรมบัญญัติ 33:23 …โอ นัฟทาลี ผู้อิ่มด้วยพระกรุณา และเต็มด้วยพระพรของพระยาห์เวห์ ...
อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ เฉลยธรรมบัญญัติ 33:23 …โอ นัฟทาลี ผู้อิ่มด้วยพระกรุณา และเต็มด้วยพระพรของพระยาห์เวห์ ...
เดือนนี้เป็นเดือนแห่งเผ่านัฟทาลี(Naphtali) หมายถึง "ความหวานต่อฉัน"
เป็นเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เพราะคำแช่งสาปและความขมขื่นใจจะกลับกลายเป็นหวานชื่นสำหรับเรา
เดือนแห่งการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในชีวิตของเรา
อธิษฐานป่าวประกาศตามพระวจนะ 2 โครินธ์ 12:9 “การมีพระคุณของเราก็เพียงพอกับเจ้า เพราะว่าความอ่อนแอมีที่ไหน ฤทธานุภาพของเราก็ปรากฏเต็มที่ที่นั่น”
ในเดือนนี้มีเทศกาลสำคัญของคนยิวคือ
เทศกาลปูริม (Purim) ในวันที่ 12-13
มี.ค.
เป็นเทศกาลที่เล็งถึงชัยชนะและการไถ่ชีวิตจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยฮามาน
พระยาห์เวห์ทรงใช้พระราชินีเอสเธอร์ให้เป็นผู้เปลี่ยนเหตุการณ์ร้ายให้กลายเป็นวันแห่งชัยชนะ
(เอสเธอร์ 9:26-27)
ดังนั้นเดือนนี้ให้เราป่าวประกาศชัยชนะในชีวิตของเรา
หากเราต้องเผชิญวิกฤตการณ์ในชีวิต
นี่คือโอกาสทองของเราที่เราจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ที่ทรงทำในชีวิตของเรา
ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรให้เราเป็นดั่งเผ่า"นัฟาลี กวางยอดนักสูั" ที่เราจะกระโดดไปข้างหน้าด้วยเสรีภาพในพระคุณ และออกไปปลดปล่อยข่าวดี ... และก้าวกระโดดไปข้างหน้าภายใต้สิทธิอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไปสู่คนทั้งโลก!
ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรให้เราเป็นดั่งเผ่า"นัฟาลี กวางยอดนักสูั" ที่เราจะกระโดดไปข้างหน้าด้วยเสรีภาพในพระคุณ และออกไปปลดปล่อยข่าวดี ... และก้าวกระโดดไปข้างหน้าภายใต้สิทธิอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไปสู่คนทั้งโลก!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น