12 มีนาคม 2560

เทศกาลปูริม ถอดหน้ากากเปิดเผยตัวตน

ในเดือนอาดาร์(Adar) มีเทศกาลสำคัญของคนอิสราเอล นั่นคือ "เทศกาลปูริม"(Purim) ช่วงวันที่ 14-15 เดือนอาดาร์ สำหรับปี 2017 จะตรงกับวันที่ 12-13 มี.ค.  

ต้นกำเนิดของเทศกาลปูริมถูกบันทึกไว้ในพระธรรมเอสเธอร์  เทศกาลนี้ เป็นการระลึกเหตุการณ์สมัยพระราชาอาหสุเอรัสแห่งเปอร์เชียร  เมื่อพระราชินีเอสเธอร์และโมรเดคัยลูกพี่ลกน้องของเธอช่วยคนยิวให้รอดพ้นจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากศัตรูตัวร้าย คือ ฮามาน

คำว่า ปุริม  มาจากภาษาฮีบรู פּוּרִים  แปลว่า สลาก”(lot) เป็นการอ้างอิงถึงการทอดสลากของฮามาน เพื่อหาวันที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวทั้งผู้ใหญ่และเด็ก 
เอสเธอร์ 3:7  ในเดือนแรกซึ่งเป็นเดือนนิสานปีที่สิบสองแห่งรัชกาลกษัตริย์อาหสุเอรัส เขาพากันทอดเปอร์ คือ สลาก ต่อหน้าฮามานเพื่อหาวัน และเขาทอดเปอร์เพื่อหาเดือน ได้วันที่สิบสามและเดือนที่สิบสอง คือเป็นเดือนอาดาร์
เอสเธอร์ 9:24-26 
24 เพราะฮามานบุตรฮัมเมดาธาคนอากัก ศัตรูของพวกยิวทั้งปวง ได้ปองร้ายต่อพวกยิวเพื่อทำลายเขาได้ทอดเปอร์ คือสลาก เพื่อล้างผลาญและทำลายเขา...
26 เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกวันเหล่านี้ว่า ปูริม ตามคำเปอร์ ดังนั้น เพราะทุกอย่างที่เขียนไว้ในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกยิวต้องเผชิญในเรื่องนี้และสิ่งที่อุบัติแก่เขา

หลังจากที่พระราชินีเอสเธอร์และโมรเดคัยช่วยคนยิวให้รอดพ้นจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  โมรเดคัยจึงบันทึกเหตุการณ์นี้และประกาศให้คนยิวจัดเทศกาลปูริมในวันที่ 14-15 อาดาร์ ขึ้นทุกๆปี เพื่อระลึกถึงการช่วยกู้จากพระเจ้าให้รอดจากความตาย 
เอสเธอร์ 9:20-22 
20 และ​โมร​เดคัย​บันทึก​เรื่อง​นี้​และ​ส่ง​จดหมาย​ไป​ยัง​พวก​ยิว​ทั้ง​ปวง ผู้​อยู่​ใน​มณฑล​ทั้ง​ปวง​ของ​กษัตริย์​อาห​สุ​เอรัส ทั้ง​ใกล้​และ​ไกล​
21 ชักชวน​เขา​ให้​ถือ​วันที่​ 14 ดือน​อา​ดาร์ และ​วันที่​ 15 เดือน​เดียว​กัน​ทุกๆ ปี​
22 เป็น​วันที่​พวก​ยิว​พ้น​จาก​ศัตรู​ของ​เขา และ​เป็น​เดือน​ที่​เปลี่ยน​ความ​โศก​เศร้า​เป็น​ความ​ยินดี และ​การ​คร่ำ​ครวญ​เป็น​วัน​รื่น​เริง​ให้แก่​เขา และ​ให้​เขา​ถือ​เป็น​วัน​กิน​เลี้ยง​และ​วัน​ยินดี เป็น​วันที่​ส่ง​ของขวัญ​แก่​กัน​และ​กัน และ​ให้​ของขวัญ​แก่​คน​จน
เทศกาลปูริมเป็นเทศกาลที่ชื่นชมยินดีในความรอดโดยพระคุณจากพระยาห์เวห์ คนยิวจะจัดเตรียมตะกร้าใส่ของขวัญไว้  เรียกว่า “ตะกร้าปูริม” นำไปมอบกับคนในครอบครัว  รวมถึงคนยากจนและด้อยโอกาสต่างๆ  การมอบของขวัญให้กับผู้อื่น มาจากความรู้สึกสำนึกในพระคุณของพระยาห์เวห์ที่พระองค์ทรงประทานของขวัญล้ำค่าซึ่งก็คือ ชีวิตที่ได้รับความรอด เช่นเดียวกัน
 พระเยซูคริสต์ทรงเป็นของขวัญล้ำค่า  คือ ความรอดที่ทรงประทานให้กับเรา (ยอห์น 3:16) และเพื่อให้เรามอบให้ผู้อื่นด้วยใจยินดี  

ตัวอักษรฮีบรูสำหรับเดือนอาดาร์  คือ  ק   ตัวอักษรโคฟ (kuf) หรือ (Qoph) ออกเสียงเหมือนตัวอักษร Q ในภาษาอังกฤษ   
ความหมาย คือ “การหัวเราะ” (laughter) และอีกความหมายหนึ่งคือ “การสวมหน้ากาก”(masquerade)

หากเป็นช่วงเวลานี้ รายการสุดฮิตทางช่อง Work point (ช่อง 23) คือ รายการหน้ากากนักร้อง(The Mask Singer) เป็นการแข่งขันร้องเพลงที่ผู้เข้าแข่งขันต้องสวมหน้ากากมาร้องเพลง ผู้ใดแพ้จะตกรอบและต้องถอดหน้ากาก เผยโฉมตัวตนออกมาให้ผู้ชมได้รู้ว่า  นักร้องคนนี้เป็นใคร 

เทศกาลปูริม  ฮามาน(Haman) ที่เสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีต่อพระราชาก็ได้เปิดเผยตัวว่า เป็น "หน้ากากนักฆ่า"(The Mask Killer) หมายที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนยิว แต่ราชินีเอสเธอร์ก็ได้เผยโฉมเปิดเผยตัวตนของเธอว่าเธอยืนเคียงข้างอิสราเอล ชนชาติของเธอ เพื่อช่วยคนยิวให้รอด

สำหรับความหมายเชิงการเผยพระวจนะของเดือนอาดาร์ เป็นเดือนที่เราจะถอดหน้ากากออก  เพื่อว่าเราจะสามารถหัวเราะได้ 
เมื่อเราได้ถอดหน้ากากแห่งตัวเก่าของเรา เราจะสามารถชื่นชมยินดีได้อย่างแท้จริงในความเป็นตัวของเรา  หน้ากากนั้นมักจะหยุดยั้งความชื่นชมยินดีเอาไว้เสมอ  
อาดาร์เป็นเดือนที่อัตลักษณ์ที่แท้จริงของเราจะถูกเปิดเผยออกมา พระเจ้าทรงมีเป้าประสงค์ลิขิตสำหรับเรา  จงค้นให้พบอัตลักษณ์ที่แท้จริงของเราในมิติฝ่ายวิญญาณ  จงเรียนรู้ว่าเราเป็นใครในองค์พระผู้เป็นเจ้า เราจำเป็นจะต้องรู้ของประทานฝ่ายวิญญาณของเรา  
ให้เราได้ทบทวนดูถ้อยคำการเผยพระวจนะที่มาถึงชีวิตของเรา เราไม่ต้องพยายามที่จะเป็นในบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่ได้เป็น และจงเริ่มต้นเคลื่อนรุดหน้าไปสู่เป้าประสงค์ลิขิตของเราในพระเจ้า ! 

เหตุการณ์ที่สำคัญมากที่สุดในเดือนอาดาร์ คือ "เทศกาลปูริม" เป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองที่คำแช่งสาปได้ถูกล้มล้างไป(The curse is overturned)
ในเทศกาลปูริม คนยิวได้เผชิญหน้ากับความตายการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโดยฮามาน แต่โดยความกล้าหาญของเอสเธอร์ เหตุการณ์ต่างๆ กลับพลิกผันไปอย่างน่าอัศจรรย์ การคุกคามหมดไปและคนยิวรอดตาย จึงเป็นช่วงเวลาที่ท่วมท้นไปด้วยความสุขความยินดี

ในเชิงเผยพระวจนะแล้ว เทศกาลปูริม ในปีนี้ คือ ปี 5777 ตัวอักษรฮีบรูสำหรับปีนี้ คือ 
 ז  อักษรซายิน (Zayin) เป็นภาพของดาบ (Sword) นี่เป็นปีแห่งดาบ นอกจากนี้ยังให้ความหมายถึง พิธีราชาภิเษก(Coronation), การสวมมงกุฏ(Crowning) และสิทธิอำนาจใหม่(New authority) 
ซายินยังเป็นภาพของคทาของกษัตริย์(Royal Scepter) อีกด้วย 

ปี 5777 จึง เป็นปีแห่งความโปรดปราน ที่ได้เข้ามาต่อพระพักตร์องค์กษัตริย์! คือ พระยาห์เวห์ นั่นหมายความว่า นี่เป็นปีที่จะอธิษฐานด้วยความมั่นใจและความกล้าหาญ!
ราชินีเอสเธอร์
 


ตามพระคัมภีร์แล้ว ชนชาติหนึ่งที่เชื่อมโยงกับตัวอักษรซายิน คือ ชนชาติเปอร์เซีย(Persia)  ปีนี้เป็นปีแห่งการสวมมงกุฎ หรือ พิธีราชาภิเษก  ปีนี้ยังเป็นปีแห่งคทาขององค์กษัตริย์อีกด้วย
สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเทศกาลปูริม 

เทศกาลปูริมเป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้งดงามชาวยิว ผู้มีชื่อว่า "ฮาดาชาห์" (Hadassah) ที่กลายเป็น "ราชินีเอสเธอร์"(Esther) 
เธอถอดหน้ากากที่พลางอยู่ เปิดเผยความเป็นยิว และเข้าไปร้องทูลต่อพระราชาด้วยความกล้าหาญ เพื่อปกป้องชนชาติยิวให้รอดพ้นจากความตาย!

พระราชาอา​หสุ​เอ​รัส( Ahasuerus)ได้ทรงยื่นคทาออกรับพระราชินีเอสเธอร์ ทรงสำแดงความโปรดปรานต่อเธอ และทรงช่วยกู้ชีวิตผู้คนของเธออีกด้วย 


เอสเธอร์ทูลขอพระราชาให้จัดการฮามาน
ดาบที่หมายจะทำลายคนยิวกลับย้อนทำลายศัตรูของพวกเขาแทน ! 
ตะแลงแกงที่ฮามานตั้งใจจะแขวนคอโมรเดคัย(Mordecai)คนยิว กลับกลายเป็นที่แขวนคอตัวเขาเอง! 


เอสเธอร์ 8:4-7 
4 กษัตริย์​จึง​ยื่น​พระ​คทา​สุวรรณ​แก่​พระ​นาง​เอสเธอร์ พระ​นาง​เอส​เธอร์​ก็​ทรง​ลุก​ขึ้น​ยืน​เฝ้า​กษัตริย์
5 พระ​นาง​ทูล​ว่า “ถ้า​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​กษัตริย์ และ​ถ้า​หม่อม​ฉัน​เป็น​ที่​โปรดปราน​ต่อ​พระ​พักตร์​ของ​พระ​องค์ท่าน ถ้า​สิ่ง​นั้น​ถูก​ต้อง​เหมาะ​สม​ต่อ​พระ​พักตร์​กษัตริย์ และ​หม่อม​ฉัน​เป็น​ที่​โปรด​ปราน​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระ​องค์ท่าน ขอ​ทรง​ให้​มี​พระ​อัก​ษร​รับ​สั่ง​ให้​กลับ​ความ​ใน​จด​หมาย​ซึ่ง​ฮา​มาน​บุตร​ฮัม​เม​ดา​ธา คน​อากัก ได้​คิด​และ​เขียน​ขึ้น​เพื่อ​ทำ​ลาย​พวก​ยิว​ที่​อยู่​ใน​มณฑล​ทั้ง​สิ้น​ของ​กษัตริย์

6 เพราะ​หม่อม​ฉัน​จะ​ทน​ดู​เหตุ​ร้าย​มา​ถึง​ชนชาติ​ของ​หม่อม​ฉัน​ได้​อย่าง​ไร? หม่อม​ฉัน​จะ​ทน​ดู​การ​ทำลาย​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​หม่อม​ฉัน​ได้​อย่าง​ไร?”
7 กษัตริย์​อา​หสุเอรัส​จึง​ตรัส​กับ​พระ​ราชินี​เอส​เธอร์​และ​กับ​โมร​เด​คัย​คน​ยิว​ว่า “ดู​สิ เรา​มอบ​บ้าน​ของ​ฮา​มาน​แก่​พระ​นาง​เอส​เธอร์​แล้ว และ​พวก​เขา​ก็​แขวน​คอ​มัน​บน​ตะแลง​แกง เพราะ​มัน​ยื่น​มือ​ออก​ทำ​ร้าย​พวก​ยิว

พระเจ้าต้องการให้เราทั้งหลายได้มองดูที่ เอสเธอร์ ในปีนี้ เรื่องราวของเอสเธอร์ ทั้งสิ้นแล้วเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกที่จะรับเอาเป้าประสงค์ชีวิตของพระเจ้า (destiny) ที่ได้ทรงเลือกสรร ไว้สำหรับชีวิตของเรา และเป็นเพราะว่า เอสเธอร์ได้เลือกที่จะติดตามการทรงเรียกที่พระเจ้าทรงมีในชีวิตของเธอ คนยิวจึงรอดชีวิตจากการทำลายของศัตรู และแผนการแห่งพันธสัญญาของพระเจ้าก็ได้เคลื่อนรุดหน้าไปในแผ่นดินโลก!
เรื่องราวของเอสเธอร์เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับตัวเรา เพราะว่าตัวเราเองก็มีการทรงเรียกจากพระเจ้าในชีวิตเฉกเช่นเดียวกัน !

นี่เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์อิสราเอล!  อนาคตทั้งหมดตามแผนการแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า ได้วางอยู่บนชีวิตของหญิงสาวเพียงแค่คนๆ เดียว!
มีวาระเวลาที่เอสเธอร์ได้เข้าไปต่อพระพักตร์พระราชา และได้วิงวอนขอชีวิตให้กับประชาชนของเธอ
ซึ่งนั่นก็คือ การทรงเรียก หรือ เป้าประสงค์สูงสุดที่พระเจ้ามีในชีวิตของเธอในแผ่นดินโลกนี้ “เจ้าเข้ามาอยู่ในอาณาจักรนี้ก็เพื่อวาระเวลาเช่นนี้แหละ” (“You have come into the kingdom for such a time as this.!” )

เอสเธอร์ได้เอาชนะกฤษฏีกาอันชั่วร้ายของฮามาน โดยวางชีวิตของเธอให้เข้ามาสอดคล้องไปกับกฤษฏีกาที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปของพระเจ้า
สำหรับเอสเธอร์แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่น่าหวาดกลัว แต่เมื่อเธอกล้าหาญที่จะเข้ามาร้องขอต่อพระราชา เธอก็ได้วางชีวิตให้สอดคล้องไปกับฤทธิ์อำนาจทั้งสิ้นในฟ้าสวรรค์
ซาตานมักจะมีแผนการที่จะคอยขัดขวาง  มันมักจะมีกฤษฏีกาเพื่อทำลายล้างแต่พระเจ้าทรงมีวาระฤดูกาลที่ดูเหมือนว่าศัตรูกำลังมีชัย แต่ถ้อยคำของพระเจ้าทรงมีกฤษฏีกาที่สร้างสรรค์สร้างอนาคต


อิสยาห์  46:9-10  "เรา​เป็น​พระ​เจ้า และ​ไม่​มี​อื่น​ใด​เหมือน​เรา…. ‘แผนงาน​ของ​เรา​จะ​ยั่งยืนและ​เรา​จะ​กระทำ​ให้​ความ​ประสงค์​ของ​เรา​สำเร็จ​ทั้งสิ้น’


เยเรมีย์ 29:11 พระ​เจ้า​ตรัส​ว่า “เพราะ​เรา​รู้​แผนงาน​ที่​เรา​มี​ไว้​สำหรับ​เจ้า เป็น​แผนงาน​เพื่อ​สวัสดิภาพ ไม่ใช่​เพื่อ​ทุกข​ภาพ เพื่อ​จะ​ให้​อนาคต​และ​ความ​หวัง​ใจ​แก่​เจ้า​” 

นั่นก็คือ กฤษฏีกาของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของของเรา ในเทศกาลปูริมปีนี้

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เอสเธอร์ได้อดอาหารและอธิษฐานเพื่อชนชาติของเธอ เธอไม่ได้ก้มหัวยอมแพ้หรือแช่งด่าในโชคชะตาฟ้าลิขิต 

ในเวลาที่มืดมิดไร้ความหวัง คริสเตียนควรที่จะอธิษฐานเผื่อประเทศและลุกขึ้นมาส่องสว่างพระสิริของพระเจ้าในชีวิตของเรา ดั่งคำกล่าวที่ว่า "จุดเทียนให้สว่างดีกว่าที่จะสาปแช่งความมืด” (Better to light a candle than to curse the darkness.)

"เทศกาลปูริม" ช่วงวันที่ 12-13 มี.ค. เป็นเวลาที่เราควรจะทำสิ่งต่างๆดังนี้ 


1.เฝ้าดูจับตามองดูอิสราเอล และอธิษฐานเผื่อ 
 สดุดี122:6-7
6 จง​อธิษ​ฐาน​ขอ​สันติ​ภาพ​ให้​เย​รู​ซา​เล็ม​ว่า “ขอ​บรร​ดา​ผู้​ที่​รัก​เธอ​จง​จำ​เริญ
7 ขอ​สันติ​ภาพ​จง​มี​อยู่​ภาย​ใน​กำ​แพง​ของ​เธอ และ​ขอ​ให้​ความ​ปลอด​ภัย​อยู่​ภาย​ใน​ป้อม​ของ​เธอ


อธิษฐานป่าวประกาศการรื้อฟื้นคืนชีวิตขึ้นในอิสราเอลให้พวกเขากลับมาหาพระเจ้า 

บทเพลงคร่ำครวญ 5:21 โอ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้กลับสู่พระองค์เถิด แล้วพวกข้าพระองค์จะกลับสู่พระองค์  ขอทรงฟื้นเดือนปีของข้าพระองค์ให้เหมือนดังก่อน 

2. ค้นหาอัตลักษณ์ที่แท้จริงของเราในมิติฝ่ายวิญญาณ  พัฒนาของประทานฝ่ายวิญญาณ ทบทวนถ้อยคำการเผยพระวจนะที่มาเหนือชีวิตของเรา

3.เรียนรู้ในการเผชิญความยากลำบากโดยไม่ขมขื่นใจ ขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี (1เธสะโลนิกา 5:18)
อธิษฐานป่าวประกาศกฤษฏีกาของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของของเรา

4.ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพร จดบันทึกและแบ่งปันประสบการณ์แห่งพระพรออกไป

สุขสันต์ในเทศกาลปูริม "Chag Purim Sameach!”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น