พระวิญญาณบริสุทธิ์พรากไปจากผู้เชื่อได้หรือไม่? โดย Haiyong Kavilar
ข้อพระคัมภีร์ที่ผู้คนหวาดกลัว
มีข้อพระคัมภีร์บางข้อ
ที่ทำให้ผู้คนมีความหวาดกลัวว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสามารถพรากหรือหนีไปได้
(1ซามูเอล 16:14)
พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ทรงละจากซาอูล และวิญญาณชั่วจากพระยาห์เวห์ก็ทรมานซาอูล
(สดุดี 51:11)
ขออย่าทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปจากพระพักตร์พระองค์ และขออย่าทรงนำพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพระองค์
จากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ดูประหนึ่งว่า
พระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถละหรือพรากไปจากได้ อย่างไรก็ตามข้อพระคัมภีร์ที่ยกมานี้ต่างอยู่ในภาคพันธสัญญาเดิม
พันธสัญญาใหม่ประเสริญกว่าพันธสัญญาเดิม
อย่างไรก็ตาม
ปัจจุบันนี้พวกเราอยู่ในพันธสัญญาใหม่อันเป็นพันธสัญญาที่ประเสริฐกว่าพันธสัญญาเดิม
(ฮีบรู 8:6) แต่บัดนี้พระเยซู
ทรงได้รับพันธกิจที่สูงส่งกว่าของพวกเขา
เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงเป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาอันประเสริฐกว่า
ซึ่งตั้งอยู่บนพระสัญญาที่ประเสริฐกว่า
พันธสัญญาแต่อย่างก็มีเนื้อหาที่แตกต่างกันไปตามพันธสัญญานั้นๆ
ในพันธสัญญาโมเสสที่อิงกับธรรมบัญญัติมีการสรุปรวบยอดคือ
“จงรักพระเจ้าอย่างหมดหัวใจและจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
แต่นี่เป็นเพียงการสรุปรวบยอดของพันธสัญญาเดิมที่ด้อยกว่าพันธสัญญาใหม่ ในพันธสัญญาใหม่มีเพียงบัญญัติเดียวคือ
”จงรักซึ่งกันและกันเหมือนที่พระเยซูทรงรัก”
(ยอห์น 13:34)
เราให้บัญญัติใหม่ไว้กับพวกท่าน คือให้รักซึ่งกันและกัน
เรารักพวกท่านมาแล้วอย่างไร ท่านก็จงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น
ในพันธสัญญาเดิมได้สั่งให้ผู้คนรักเหมือนรักตนเอง
แต่ในพันธสัญญาใหม่มีพระบัญญัติให้รักเหมือนดั่งที่พระเยซูทรงรัก
มาตรฐานของความรักในพันธสัญญาใหม่เป็นมาตรฐานที่สูงส่งกว่าพันธสัญญาเดิม
นอกจากนี้ในพันธสัญญาใหม่มองว่าการรักพี่น้องถือว่าเป็นการรักพระเจ้า
ในพันธสัญญาใหม่ไม่ได้แยกระหว่างการรักพระเจ้ากับการรักพี่น้อง
แต่ได้นับรวมกันว่าการรักพี่น้องถือว่าเป็นการรักพระเจ้า
(ยอห์น 14:15)
“ถ้าพวกท่านรักเรา[พระเยซู-พระเจ้า]
ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา[จงรักซึ่งกันและกัน]
เนื้อหาของพันธสัญญาใหม่ในเรื่องความรักนั้นแตกต่างไปจากพันธสัญญาเดิม
เนื้อหาเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในพันธสัญญาใหม่ก็แตกต่างไปจากพันธสัญญาเดิมด้วย
ในพันธสัญญาเดิม พระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถพรากไปจากผู้คนได้ แต่ในพันธสัญญาใหม่
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสถิตกับผู้เชื่อตลอดไป
(ยน.14:16) เราจะทูลขอพระบิดา
และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่ง[พระวิญญาณบริสุทธิ์]ให้กับพวกท่าน
เพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป
ในภาษาไทย ข้อพระคัมภีร์นี้บอกชัดเจนว่าในพันธสัญญาใหม่
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะอยู่กับผู้เชื่อตลอดไป
การสถิต “บน” กับการสถิต “ใน”
ในพันธสัญญาเดิม
เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสถิตกับผู้คน พระองค์ทรงสถิตอยู่ “บน”
ผู้คนเพื่อให้ฤทธิ์เดชเป็นครั้งคราว ตามรากภาษาของพระคัมภีร์แล้ว
ไม่มีส่วนไหนในพันธสัญญาเดิมที่กล่าวว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิต “ใน” ผู้คน
มีเพียงแต่สถิตอยู่ “บน” ผู้คนเท่านั้น
มีหลายเหตุการณ์ในพันธสัญญาเดิมที่เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสถิตอยู่
“บน” ผู้คน แล้วคนนั้นก็มีพละกำลังหรือได้รับถ้อยคำในการเผยพระวจนะ การสถิตอยู่
“บน” ผู้คนจึงเป็นการสถิตในมิติของฤทธิ์เดชอย่างไรก็ตามในพันธสัญญาใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้เพียงแต่สถิตอยู่
“บน” ผู้คนเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงสถิต “ใน” ผู้คนด้วย
(เอเสเคียล36:27)
เราจะใส่วิญญาณของเราไว้ภายในของเจ้าทั้งหลาย
แล้วทำให้เจ้าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา...
บริบทของข้อพระคัมภีร์นี้ได้กล่าวถึงการก้าวเข้าสู่พันธสัญญาใหม่
ที่พระเจ้าจะใส่พระวิญญาณของพระองค์ไว้ “ภายใน” ผู้เชื่อ
เพื่อให้ผู้เชื่อดำเนินตามกฏเกณฑ์ของพระองค์
คือกฏเกณฑ์แห่งความรักของพันธสัญญาใหม่ การสถิต “ใน” มีความแตกต่างจากการสถิต “บน”
การสถิต “ใน” ให้มิติของความรัก เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สถิต “ใน” ผู้เชื่อแล้ว
ผู้เชื่อจึงมีชีวิตของพระเจ้าอยู่ภายในทำให้ผู้เชื่อมีความรักต่อผู้คน
ในทางตรงกันข้าม การสถิต “บน” ของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ทำให้ผู้เชื่อมีฤทธิ์เดชในการทำพันธกิจ
การสถิต “บน” à ให้ฤทธิ์เดช
การสถิต “ใน” à ให้ความรัก
เมื่อผู้เชื่อรับการเต็มล้นในพระวิญญาณบริสุทธิ์
บางครั้งผู้เชื่อจะสัมผัสถึงสันติสุขและมีความรักต่อผู้คน
แต่บางครั้งผู้เชื่อก็จะสัมผัสถึงฤทธิ์เดชและสำแดงของประทานต่างๆออกมา
ทั้งนี้เพราะในพันธสัญญาใหม่
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงมีพันธกิจของการให้ฤทธิ์เดชแบบการสถิต “บน” และปลดปล่อยความรักแบบการสถิต
“ใน”
การสถิต “ใน” เป็นการสถิตนิรันดร์
บางครั้งการสถิต
“บน” ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นการสถิตแบบครั้งคราวเพื่อให้ฤทธิ์เดช แต่การสถิต
“ใน” ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นการสถิตแบบตลอดไป(นิรันดร์) เมื่อผู้เชื่อได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เมื่อบังเกิดใหม่
ผู้เชื่อก็ได้รับชีวิตนิรันดร์ อันเป็นชีวิตที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์และจะเป็นชีวิตที่อยู่ภายในผู้เชื่อตลอดนิรันดร์
ในพันธสัญญาใหม่
แม้ว่าผู้เชื่อจะทำผิดพลาดมากมายเพียงใด แม้ผู้เชื่อจะทำสิ่งเลวร้ายมากขนาดไหน
พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ไม่มีวันที่จะหนีออกไปจากผู้เชื่อ
แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถเสียใจกับสิ่งที่ผู้เชื่อทำได้
ดังนั้นการดำเนินชีวิตคริสเตียนจึงไม่ใช่การดำเนินชีวิตที่กลัวว่าจะสูญเสียความรอดหรือกลัวว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะพรากจากไป
แต่การดำเนินชีวิตคริสเตียนคือการดำเนินชีวิตที่มีปฏิสัมพันธ์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์
โดยทำให้พระองค์ยิ้มและไม่เสียพระทัย
(อฟ.5:30)และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย
ด้วยพระวิญญาณนั้นท่านได้รับการประทับตราไว้สำหรับวันที่จะได้รับการไถ่
หนังสือแนะนำเพิ่มเติม
Sides,
Dale. The Anointing
In & On. 2nd
ed. USA: Liberating Ministries for Christ International, 2008.
Welton,
Jonathan. Understanding
the Whole Bible. USA: Welton
Academy, 2014.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น