03 เมษายน 2560

ทำความเข้าใจตรีเอกานุภาพ

                                ทำความเข้าใจตรีเอกานุภาพ โดย Haiyong Kavilar

หลักข้อเชื่อสำคัญอันหนึ่งของคริสเตียนคือเรื่องตรีเอกานุภาพ ซึ่งอธิบายไว้ว่า พระเจ้าองค์เดียวทรงปรากฏเป็นสามพระภาคหรือสามบุคคลคือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ หลักข้อเชื่อนี้อาจดูขัดแย้งกัน โดยเฉพาะคำว่า องค์เดียว กับ สามพระภาคหรือสามบุคคล

หมายเหตุ คำว่า พระภาค หรือ บุคคล มีที่มาจากศัพท์คำเดียวกันในภาษาอังกฤษ คือคำว่า Person

            อย่างไรก็ตามถ้าเพื่อนๆเข้าใจรากศัพท์ภาษาฮีบรูอันเป็นภาษาเดิมของพระคัมภีร์ ความขัดแย้งระหว่างคำว่า องค์เดียว กับ สามบุคคล จะเจือจางลงไปมาก

คำว่า Yachid กับ Echad
            คำว่า หนึ่ง ในภาษาฮีบรูนั้นมีการใช้หลักๆอยู่สองคำ คือคำว่า Yachid กับคำว่า Echad ทว่าสองคำนี้มีความหมายที่แตกต่างกัน โดยคำว่า Yachid จะหมายถึงความเป็นหนึ่งที่มีแค่ชิ้นเดียวอย่างสมบูรณ์ แต่คำว่า Echad จะหมายถึงความเป็นหนึ่งที่เกิดจากการประสมรวมกันก็ได้ เช่น

(ปฐมการ 2:24) เพราะ​เหตุ​นั้น​ผู้​ชาย​จะ​ละ​จาก​บิดา​มารดา​ของ​เขา​ไป​ผูก​พัน​อยู่​กับ​ภรรยา และ​เขา​ทั้ง​สอง​จะ​เป็น​เนื้อ​เดียว​กัน[Echad]

คำว่าเนื้อเดียวกันนี้ใช้ภาษาฮีบรูว่า Echad ซึ่งในบริบทนี้หมายถึงความเป็นหนึ่งแบบประสม นั่นคือแม้ สามี-ภรรยา จะเป็นบุคคลสองบุคคล แต่ สามี-ภรรยา ก็ถูกประสมเป็นเนื้อเดียวกัน
           

เมื่อพระคัมภีร์ใช้คำว่าพระเจ้าองค์เดียว คำว่าองค์เดียว ล้วนมาจากคำว่า Echad ที่สื่อถึงความเป็นหนึ่งแบบประสม และไม่มีจุดไหนในพระคัมภีร์ที่ใช้คำว่า Yachid กับพระเจ้าเลย นี่สื่อความหมายว่าพระเจ้าในพระคัมภีร์นั้น อาจไม่ได้มีแค่บุคคลเดียว แต่อาจมีหลายบุคคล เหมือนกับที่สามี-ภรรยา เป็นบุคคลสองบุคคล แต่สองบุคคลนี้ถูกประสมเป็นเนื้อเดียวกัน

คำว่า Elohim
       
        ในพระคัมภีร์ภาษาไทย คำว่า พระเจ้า ส่วนใหญ่แปลมาจากคำศัพท์ภาษาฮีบรูคือคำว่า Elohim ซึ่งตามรูปศัพท์ฮีบรูแล้ว คำว่า Elohim เป็นศัพท์ในรูปพหูพจน์มิใช่เอกพจน์ นี่สะท้อนว่าพระเจ้าของอิสราเอลนั้น ไม่ได้เป็นพระเจ้าที่มีแค่บุคคลเดียว แต่มีได้หลายบุคคล

การเปิดเผยในพันธสัญญาใหม่
     
     ในพันธสัญญาเดิม  ผู้คนอาจจะไม่เห็นภาพของตรีเอกานุภาพชัดนัก แต่ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ได้เปิดเผยว่าพระเจ้าของอิสราเอลไม่ได้เป็นพระเจ้าที่มีแค่บุคคลเดียว แต่เป็นพระเจ้าที่มีอยู่สามบุคคลคือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และทั้งสามบุคคลนี้ทรงเป็นองค์เดียวกันหรือหนึ่งเดียวกัน

(มัทธิว 28:19) เพราะ​ฉะนั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ออก​ไป​และ​นำ​ชน​ทุก​ชาติ​มา​เป็น​สา​วก​ของ​เรา จง​บัพ​ติศ​มา​พวก​เขา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา พระ​บุตร และ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์

องค์เดียวหรือ หนึ่งเดียว
ในภาษาไทย หลักตรีเอกานุภาพอธิบายโดยกล่าวว่า
พระเจ้าทั้งสามพระภาค [พระบิดา พระบุตร และวิญญาณบริสุทธิ์]
ทรงเป็นองค์เดียวกัน

คำว่า องค์เดียวกันอาจเป็นศัพท์ที่สร้างความสับสน เพราะคำว่า องค์เดียว ให้ความรู้สึกถึงการมีอยู่แค่บุคคลเดียว แต่ตามรากศัพท์ภาษาฮีบรูแล้ว คำว่า องค์เดียว ล้วนแปลมาจากคำว่า Echad ที่สื่อถึงความเป็นหนึ่งแบบประสม ดังนั้นคำว่า Echad จึงสามารถแปลเป็นคำว่า หนึ่งเดียว ก็ได้ ดังนั้นแทนที่จะกล่าวว่า พระเจ้าทั้งสามพระภาคทรงเป็นองค์เดียวกัน ก็สามารถเปลี่ยนเป็น พระเจ้าทั้งสามพระภาคทรงเป็นหนึ่งเดียวกัน ได้ ตามหลักภาษาฮีบรูแล้ว คำว่า หนึ่งเดียว อาจช่วยให้เห็นภาพมากกว่าคำว่า องค์เดียว เสียอีก เพราะคำว่า หนึ่งเดียว ช่วยคงความหมายของคำว่า Echad ที่หมายถึงความเป็นหนึ่งแบบประสม

คนละบุคคลกัน แต่เป็นหนึ่งเดียวกัน

          พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงเป็นบุคคลสามบุคคลที่เป็นคนละบุคคลกัน แต่ทั้งสามบุคคลนี้ก็เป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนกับ สามี-ภรรยา ที่เป็นคนละบุคคลกัน แต่สามีกับภรรยาก็นับว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ความเป็นหนึ่งเดียวกันของสามี-ภรรยากับความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระเจ้าสามพระภาคก็มีความแตกต่างกัน ตามพระคัมภีร์แล้วความเป็นหนึ่งของพระเจ้าทั้งสามพระภาคนับเป็นความเป็นหนึ่งที่สมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบถึงขนาดที่ว่า หากเพื่อนๆเจอพระเยซู ก็เหมือนกับเพื่อนๆได้เจอกับพระบิดาด้วย หรือถ้าเพื่อนๆเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็เหมือนกับเพื่อนๆเต็มล้นด้วยพระบิดาและพระบุตร เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในใจของเพื่อนๆ ก็เหมือนกับพระบิดาและพระบุตรก็ได้เข้ามาในใจของเพื่อนๆด้วย

(ยอห์น 10:30) เรา​[พระเยซู]กับ​พระ​บิดา​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน

(ยอห์น 14:9) คน​ที่​ได้​เห็น​เรา[พระเยซู]​ก็​ได้​เห็น​พระ​บิดา

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตรีเอกานุภาพ
          
หลักคำสอนของตรีเอกานุภาพคริสตจักรทั่วไปยึดถือคือ พระเจ้าหนึ่งเดียว ทรงปรากฏเป็นสามบุคคลอย่างไรก็ตาม ในแต่ละยุคแต่ละสมัยก็มีผู้คนเข้าใจตรีเอกานุภาพผิดแปลกไปอยู่เป็นระยะๆ ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งที่มักพบก็คือ แทนที่จะเข้าใจว่า พระเจ้าหนึ่งเดียว ทรงมีสามบุคคล กลับเข้าใจผิดเป็น พระเจ้าบุคคลเดียว แต่ทรงทำสามหน้าที่

            มีอุปมาเรื่องหนึ่งที่มีการใช้กันเพื่ออธิบายเกี่ยวกับตรีเอกานุภาพ แต่อุปมานี้เป็นอุปมาที่สร้างความเข้าใจผิด อุปมานี้เล่าว่า เมื่อนายเอเบอร์อยู่บ้าน นายเอเบอร์เป็นพ่อ(Father) เมื่อนายเอเบอร์ขับรถ นายเอเบอร์ก็เป็นคนขับรถ(Driver) และเมื่อเอเบอร์อยู่ที่ทำงาน นายเอเบอร์ก็เป็นวิศวกร(Engineer) ภาพอุปมานี้ใช้อธิบายว่านายเอเบอร์มีคนเดียว แต่ปรากฏเป็น 3 หน้าที่คือ พ่อ คนขับรถ และวิศวกร
           
อุปมาที่ผมยกมานี้เป็นอุปมาที่สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะอุปมานี้สื่อถึง บุคคลเดียวโดยทำสามหน้าที่ แต่หลักตรีเอกานุภาพไม่ใช่แบบนี้ หลักตรีเอกานุภาพที่ถูกต้องคือ หนึ่งเดียวกันโดยมีสามบุคคล

ในพระคัมภีร์มีเหตุการณ์หนึ่งที่พระเยซูทรงรับบัพติศมาในน้ำ เมื่อพระองค์รับบัพติศมาในน้ำ พระบิดาก็ทรงตรัสจากสวรรค์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จมาสถิตบนพระเยซู หรือแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ พระเยซูก็ทรงประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์พระบิดาและพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงทำพระราชกิจบนแผ่นดินโลก จากเหตุการณ์ในพระคัมภีร์เหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงเป็นหนึ่งเดียวที่มีอยู่สามบุคคล ไม่ใช่บุคคลเดียวที่มีอยู่สามหน้าที่ เพราะถ้าพระเจ้าเป็นบุคคลเดียวที่มีสามหน้าที่ พระองค์จะไม่สามารถปรากฏเป็นสามพระภาคพร้อมกันได้เลย


คนละบุคคล

แม้ว่าพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเป็นหนึ่งเดียวกัน(Echad) แต่ทั้งสามบุคคลนี้ก็เป็นบุคคลที่แตกต่างกัน เหมือนสามีกับภรรยา ที่เป็นเนื้อเดียวกัน(Echad) แต่ก็เป็นบุคคลที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้พระคัมภีร์จึงให้ภาพของพระบิดากับผู้เชื่อในแง่ของพ่อกับลูก และให้ภาพของพระเยซูกับผู้เชื่อในมิติของพี่กับน้อง

(ฮีบรู 2:11) เพราะ​ทั้ง​ผู้​ชำระ​ให้​บริ​สุทธิ์​[พระบุตร]และ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​รับ​การ​ชำระ[ผู้เชื่อ] ก็​มี​พระ​บิดา​องค์​เดียว​กัน ด้วย​เหตุ​นี้ พระ​เยซู​จึง​ไม่​ทรง​ละอาย​ที่​จะ​เรียก​เขา​เหล่า​นั้น[ผู้เชื่อ]​ว่า​พี่​น้อง

เนื่องจากพระบิดาทรงเป็นพ่อของพระบุตรและเป็นพ่อของผู้เชื่อด้วย ฉะนั้นพระบุตรกับผู้เชื่อจึงเป็นพี่น้องกัน สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพระวิญญาณบริสุทธิ์กับผู้เชื่อนั้น พระคัมภีร์ได้สะท้อนภาพในหลายมิติ ซึ่งอาจจะเป็นในมิติของพระผู้ช่วยเหลือก็ได้ หรือเป็นในมิติของเพื่อนที่สนิทสนมก็ได้

(ยอห์น.14:16) เรา​[พระเยซู]จะ​ทูล​ขอ​พระ​บิดา และ​พระ​องค์​จะ​ประ​ทาน​ผู้​ช่วย​อีก​ผู้​หนึ่ง[พระวิญญาณบริสุทธิ์]​ให้​กับ​พวก​ท่าน เพื่อ​จะ​อยู่​กับ​ท่านตลอด​ไป

(2 โครินธ์ 13:13) และ​การ​มี​ส่วน​กัน​[การปฏิสัมพันธ์-การสนิมสนม]ที่​มา​จาก​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์ จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทุก​คน​เถิด
         
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเป็นคนละบุคคลกัน แต่ทั้งสามพระภาคนี้ต่างก็เป็นหนึ่งเดียวกัน การที่ผู้เชื่อเจอกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็เหมือนดั่งเจอกับพระบิดาและพระบุตรด้วย และการที่พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตในผู้เชื่อ ก็เหมือนกับพระบิดาและพระบุตรสถิตอยู่ในผู้เชื่อด้วยเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น