สวัสดีครับ เพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่วงจรเวลาแห่งพระพรในเดือนนิสาน(Nisan) ปี 5777 (ช่วงระหว่างเย็นวันที่ 27 มีนาคม – 26 เมษายน 2017) เดือนนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่ตามปฏิทินยิวแบบศาสนา
เทศกาลที่สำคัญคือ เทศกาลปัสกา(Passover) หรือ เพซัค (Pesach-פֶּסַח) แปลว่า ผ่านไป หรือ ผ่านเว้น (Passover) เป็นเทศกาลที่ชาวอิสราเอลจะรับประทานขนมปังไร้เชื้อและผักขมเพื่อระลึกถึงความขมขื่นใจในการเป็นทาสอยู่ที่ประเทศอียิปต์ และขอบพระคุณต่อพระยาห์เวห์ที่พระองค์ทรงนำพวกเขาออกจากการเป็นทาสไปสู่ความเป็นไทในดินแดนแห่งใหม่ คือ ดินแดนคานาอัน (Canaan) ตามเป้าประสงค์ของพระองค์
เทศกาลปัสกา(Passover) จะอยู่ในช่วงเย็นวันที่ 10-18 เม.ย. 2017
เทศกาลที่สำคัญคือ เทศกาลปัสกา(Passover) หรือ เพซัค (Pesach-פֶּסַח) แปลว่า ผ่านไป หรือ ผ่านเว้น (Passover) เป็นเทศกาลที่ชาวอิสราเอลจะรับประทานขนมปังไร้เชื้อและผักขมเพื่อระลึกถึงความขมขื่นใจในการเป็นทาสอยู่ที่ประเทศอียิปต์ และขอบพระคุณต่อพระยาห์เวห์ที่พระองค์ทรงนำพวกเขาออกจากการเป็นทาสไปสู่ความเป็นไทในดินแดนแห่งใหม่ คือ ดินแดนคานาอัน (Canaan) ตามเป้าประสงค์ของพระองค์
เทศกาลปัสกา(Passover) จะอยู่ในช่วงเย็นวันที่ 10-18 เม.ย. 2017
เมื่อเราอ่านในพระธรรมอพยพ เราจะเห็นถึงพระเมตตาของพระยาห์เวห์ที่ทรงมีต่อชนชาติของพระองค์ เสียงร้องด้วยความทนทุกข์ยากลำบากดังไปถีงพระกรรณของพระองค์ในฟ้าสวรรค์ ดังนั้นพระองค์จึงประทานการช่วยกู้ผ่านทางผู้นำของเขาคือ โมเสส(Moses) หรือ מֹשֶׁה (Mosheh) ที่แปลว่า ฉุดขึ้นมา ท่านเป็นผู้ช่วยกู้ พาพวกเขาออกไปสู่อิสรภาพ แต่ก่อนที่จะออกมาจากอียิปต์ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะกษัตริย์ฟาโรห์ใจแข็งกระด้างไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลออกจากการเป็นทาสเพื่อจะไปนมัสการพระยาห์เวห์ คนอียิปต์จึงได้รับภัยพิบัติ 10 ประการ ซึ่งสำแดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ที่เหนือกว่าบรรดาเทพเจ้าต่างๆของอียิปต์
บทความครั้งนี้ ผมจึงขอเรียบเรียง 10 ภัยพิบัติก่อนปัสกาจากพระธรรมอพยพ บทที่ 7-12 ดังนี้
1.ภัยพิบัติน้ำกลายเป็นเลือด (อพยพ 7:14-24)
Hapi |
เหตุการณ์นี้เป็นการสำแดงฤทธานุภาพครั้งที่ 2 ของพระยาห์เวห์ หลังจากที่โมเสสกับอาโรนเข้าเฝ้าฟาโรห์เพื่อจะทูลขอให้ปลดปล่อยคนยิวให้เป็นอิสระ พระยาห์เวห์ทรงทำให้ไม้เท้าของอาโรนกลายเป็นงู แต่ฟาโรห์ทรงเรียกพวกนักปราชญ์ และพวกนักวิทยาคมมาพวกเขาก็ทำให้ไม้เท้ากลายเป็นงูได้เช่นกันแต่ไม้เท้าของอาโรนกลืนไม้เท้าของพวกเขาเสียสิ้น (อพยพ 7:11-12)
พระยาห์เวห์จึงทรงสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์โดยให้โมเสสฟาดไม้เท้าของอาโรนลงในแม่น้ำไนล์ทำให้กลายเป็นเลือด ไม่สามารถดื่มได้ (อพยพ 7:14-18)
แม่น้ำไนล์มีความสำคัญกับคนอียิปต์อย่างมาก เป็นแหล่งอาหาร และเป็นน้ำสำหรับดื่มกิน และการชลประทานเพื่อพืชผลทางการเกษตร คนอียิปต์พึ่งพาแม่น้ำไนล์เพื่อดำรงชีวิต
ประเทศอียิปต์ได้ชื่อว่า “ของขวัญจากแม่น้ำไนล์ (Egypt is the Gift of the Nile)”
(ข้อมูลจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Nile)
ถ้าขาดแม่น้ำไนล์แล้วอียิปต์ก็คงไม่มีชื่อเสียงเท่าใดนักหรอกครับ เพราะอียิปต์นั้นถือได้ว่าเป็นแหล่งอารยชนที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ เทพเจ้า 2 องค์หลักที่ดูแลพิทักษ์แม่น้ำไนล์นั้นไว้เทพเจ้าองค์แรก ชื่อว่า ฮาปิ (Hapi) องค์ที่ 2 ชื่อ คนูม(Khnum) แม่น้ำไนล์กลายเป็นเลือดและทุกสิ่งในน้ำนั้นตาย เทพเจ้าทั้งสองไม่สามารถช่วยเหลือใด ๆ พวกเขาได้เลย แต่ฟาโรห์ปฏิเสธไม่ยอมให้คนอิสราเอลไปทั้งนี้เพราะพวกที่ใช้เวทมนตร์คาถาแห่งอียิปต์ก็ทำได้เหมือนกัน คนอียิปต์พากันขุดหลุมตามริมแม่น้ำไนล์หาน้ำดื่ม เพราะพวกเขาดื่มน้ำในแม่น้ำไนล์ไม่ได้ (อพยพ 7:22-24)
ถ้าขาดแม่น้ำไนล์แล้วอียิปต์ก็คงไม่มีชื่อเสียงเท่าใดนักหรอกครับ เพราะอียิปต์นั้นถือได้ว่าเป็นแหล่งอารยชนที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ เทพเจ้า 2 องค์หลักที่ดูแลพิทักษ์แม่น้ำไนล์นั้นไว้เทพเจ้าองค์แรก ชื่อว่า ฮาปิ (Hapi) องค์ที่ 2 ชื่อ คนูม(Khnum) แม่น้ำไนล์กลายเป็นเลือดและทุกสิ่งในน้ำนั้นตาย เทพเจ้าทั้งสองไม่สามารถช่วยเหลือใด ๆ พวกเขาได้เลย แต่ฟาโรห์ปฏิเสธไม่ยอมให้คนอิสราเอลไปทั้งนี้เพราะพวกที่ใช้เวทมนตร์คาถาแห่งอียิปต์ก็ทำได้เหมือนกัน คนอียิปต์พากันขุดหลุมตามริมแม่น้ำไนล์หาน้ำดื่ม เพราะพวกเขาดื่มน้ำในแม่น้ำไนล์ไม่ได้ (อพยพ 7:22-24)
2. ภัยพิบัติจากกบ (อพยพ 8:1-15)
หลังจากแม่น้ำไนล์กลายเป็นเลือดได้ 7 วัน พระยาห์เวห์ทรงให้เกิดภัยพิบัติที่ 2 นั่นคือ ภัยพิบัติจากกบ ทั้งนี้เพราะคนอียิปต์
นับถือเทพเจ้าองค์หนึ่ง คือ เฮเกท (Heqet) เป็นพวกมนุษย์กบ เพราะบางทีก็ปรากฎร่างเป็นกบทั้งตัว
แต่บางทีก็ปรากฎตัวในรูปของมนุษย์หัวเป็นกบ
ได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้าแห่งการพูด
กบมารังควานคนอิยิปต์ไปทั่ว จนฟาโรห์ทรงตรัสให้โมเสสและอาโรนร้องทูลต่อพระยาห์เวห์ให้หยุดภัยพิบัตินี้และจะยอมปล่อยคนอิสราเอล (อพยพ 8:8) หลังจากนั้นกบตายเกลื่อนเต็มประเทศอียิปต์แต่ฟาโรห์กลับพระทัยไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอล เพราะพวกวิทยาคมของอียิปต์ก็ทำได้เช่นกัน
3. ภัยพิบัติจากริ้น (อพยพ 8:16-19)
Heqet |
กบมารังควานคนอิยิปต์ไปทั่ว จนฟาโรห์ทรงตรัสให้โมเสสและอาโรนร้องทูลต่อพระยาห์เวห์ให้หยุดภัยพิบัตินี้และจะยอมปล่อยคนอิสราเอล (อพยพ 8:8) หลังจากนั้นกบตายเกลื่อนเต็มประเทศอียิปต์แต่ฟาโรห์กลับพระทัยไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอล เพราะพวกวิทยาคมของอียิปต์ก็ทำได้เช่นกัน
Geb |
3. ภัยพิบัติจากริ้น (อพยพ 8:16-19)
พระยาห์เวห์ทรงสั่งโมเสสบอกอาโรนให้เอาไม้เท้าตีฝุ่นดิน ทำให้เกิดริ้นมาไต่ตอมคนอียิปต์ คราวนี้ตีไปที่ดิน ซึ่งมีเทพเจ้าเก็บ (Geb) หรือเทพแห่งพื้นโลก (god of earth) แต่เทพเจ้าเก็บ(Geb)เอาแต่เก็บตัว ไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่ได้ออกมาช่วยอะไรคนอียิปต์ คราวนี้พวกวิทยาคมของอียิปต์ยังทูลฟาโรห์ว่า “นี่เป็นกิจการของพระเจ้า” (อพยพ 8:19) พวกวิทยาคมเริ่มเงิบหายทำอะไรไม่ได้ แต่ฟาโรห์ยังใจแข็งกระด้างไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอล เรียกว่า "ผู้ร้ายปากแข็ง"
ลำดับต่อไป...
4. ภัยพิบัติจากเหลือบ(อพยพ 8:20-32)
จากริ้นไปเหลือบ คราวนี้อาโรนและโมเสสไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะพระยาห์เวห์บันดาลให้เกิดเหลือบขึ้นมาเอง และยังคุมเหลือบไม่ให้มาทำร้ายคนฮีบรูที่ถูกแยกมาอยู่เมืองโกเชนได้อีกด้วย เทพเจ้าผู้สร้างที่ชาวอียิปต์นับถือว่าสร้างโลกและจักรวาลและเทพประจำเมืองคือ เทพเจ้าอามุน (Amun) และ เทพเจ้าปตาห์ (Ptah) ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลยคงจะมึนและช็อคตาตั้งกระมัง พวกวิทยาคมของอียิปต์เงียบหายเช่นกัน แจ้งคนหายได้เลย แต่กระนั้นฟาโรห์ยังคง งงเด้ ยังไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอล
ยังไม่หนำใจ โดนจัดใหญ่ ลำดับต่อไป...
5. ภัยพิบัติโรคระบาดในฝูงสัตว์ (อพยพ 9:1-7)
ลำดับต่อไป...
4. ภัยพิบัติจากเหลือบ(อพยพ 8:20-32)
Amun |
Ptah |
จากริ้นไปเหลือบ คราวนี้อาโรนและโมเสสไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะพระยาห์เวห์บันดาลให้เกิดเหลือบขึ้นมาเอง และยังคุมเหลือบไม่ให้มาทำร้ายคนฮีบรูที่ถูกแยกมาอยู่เมืองโกเชนได้อีกด้วย เทพเจ้าผู้สร้างที่ชาวอียิปต์นับถือว่าสร้างโลกและจักรวาลและเทพประจำเมืองคือ เทพเจ้าอามุน (Amun) และ เทพเจ้าปตาห์ (Ptah) ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลยคงจะมึนและช็อคตาตั้งกระมัง พวกวิทยาคมของอียิปต์เงียบหายเช่นกัน แจ้งคนหายได้เลย แต่กระนั้นฟาโรห์ยังคง งงเด้ ยังไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอล
ยังไม่หนำใจ โดนจัดใหญ่ ลำดับต่อไป...
5. ภัยพิบัติโรคระบาดในฝูงสัตว์ (อพยพ 9:1-7)
Atum |
พระยาห์เวห์ทำให้เกิดโรคระบาดกับฝูงสัตว์เลี้ยงของคนอียิปต์ทั้งนี้เพราะชาวอียิปต์เชื่อว่ามีเทพเจ้าผู้ปกป้องฝูงสัตว์คือ เทพเจ้าอาตุม (Atum) แปลว่า“ทำให้บริบูรณ์” แต่คราวนี้ฝูงสัตว์ของคนอียิปต์ตายสูญสิ้นบริบูรณ์ ยกเว้นสัตว์เลี้ยงของคนอิสราเอลไม่ตายเลยสักตัวเดียว พวกวิทยาคมอียิปต์เงียบไปอีกเช่นเคย สงสัยทำวีซ่าเตรียมออกนอกประเทศอยู่ ฟาโรห์ยังไม่ยอมเช่นเดิม
อพยพ 9:7 ฟาโรห์ทรงใช้คนไปดูและพบว่า ฝูงปศุสัตว์ของอิสราเอลไม่ตายสักตัวเดียว แต่พระทัยของฟาโรห์ยังแข็งกระด้าง ไม่ทรงยอมปล่อยให้ประชากรไปThoth |
คนอียิปต์นับถือเทพเจ้า 2 องค์ที่คนอิยิปต์มองว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการเยียวยารักษาในฝ่ายภายภาพของพวกเขา
องค์แรกคือ ทอธ (Thoth)เทพเจ้าแห่ง ยารักษาโรค
องค์ที่ 2 คือ อิมโฮเตป (Imhotep) เทพเจ้าแห่งการแพทย์
คนอียิปต์ทำพิธีบูชายัญมนุษย์ให้แก่เทพเจ้าทั้งสองนี้ โดยการจับเผาคนทั้งเป็นบนแท่นบูชา และเอาเถ้าถ่านโปรยไปในอากาศ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเขม่าที่ลอยฟุ้งนั้นเป็นดังการอวยพรที่จะตกลงเหนือผู้คนต่างๆ ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงทรงตรัสกับโมเสสว่า
อพยพ 9:8-9 ...เจ้าจงกำเขม่าจากเตาให้เต็มกำมือ แล้วให้โมเสสซัดขึ้นไปในอากาศต่อหน้าฟาโรห์เขม่านั้นจะกลายเป็นฝุ่นปลิวไปทั่วแผ่นดินอียิปต์ ทำให้เกิดเป็นฝีแตกลามทั้งตัวคนและสัตว์ทั่วแผ่นดินอียิปต์
Horus |
Hathor |
ไม่มีเทพเจ้าองค์ใดของอียิปต์ช่วยพวกเขาได้เลย โมเสสชูไม้เท้าขึ้นยังท้องฟ้า พระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้มีเสียงฟ้าร้อง มีลูกเห็บ และไฟตกลงมาบนแผ่นดิน
เทพเจ้าฮาธอร์ (Hathor) และ เทพเจ้าฮอรัส (Horus) ซึ่งเทพแห่งท้องฟ้าของอียิปต์ก็หยุดยั้งพระยาห์เวห์ไม่ได้ พวกวิทยาคมของอียิปต์เงียบไปอีกเช่นเคย สงสัยเผ่นหนีไปแล้ว
8. ภัยพิบัติจากฝูงตั๊กแตน (อพยพ 10:1-20)
Anubis |
Min |
พวกข้าราชการคงจะเหน็ดเหนื่อยกับภัยพิบัติต่าง ๆ แต่ฟาโรห์ก็ยังพระทัยแข็งกระด้าง พระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้ลมตะวันออกพัดหอบฝูงตั๊กแตนมา.. มันปกคลุมพื้นแผ่นดินจนแลมืดไป ทำให้เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์(God of fertility) อย่างเทพเจ้ามิน (Min) และ เทพเจ้าไอซิส (Isis) เทพเจ้าแห่งสุขภาพพลานามัย(God of Health) เงียบสนิท ไม่คิดจะทำอะไร รวมไปถึงเทพเจ้าอนูบิส (Anubis) เป็นเทพเจ้าที่ปกป้องพืชผลของชาวอียิปต์ ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงทรงส่งฝูงตั๊กแตนลงมากินพืชผลการเกษตรของชาวอียิปต์ อนูบิส (Anubis) จึงถูกจัดการและพ่ายแพ้ไป
9. ภัยพิบัติจากความมืด (อพยพ 10:21-29)
Ra |
22 โมเสสจึงชูมือขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วความมืดทึบก็เกิดขึ้นทั่วแผ่นดินอียิปต์สามวัน
เมื่อโมเสสชูมือขึ้นสู่ท้องฟ้าก็เกิดความมืดทึบทั่วอียิปต์ตลอด 3 วัน เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์ อย่างเทพเจ้ารา (Ra) เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์
เทพเจ้าชั้นสูงสุดของอียิปต์ คือ RA ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นหัวหน้า เป็นบิดาและผู้พิพากษาสูงสุดของพวกเทพเจ้าก็ไม่สามารถจะช่วยส่องแสงให้กับคนอียิปต์ สงสัยเทพเจ้ารา (Ra) คงจะลาพักร้อนไปแล้ว ดูเหมือนว่าฟาโรห์จะยอมแพ้ เรียกโมเสสเข้าเฝ้า เพื่อจะปล่อยคนอิสราเอลให้เป็นไท
อพยพ 10:24 -29
24 ฟาโรห์จึงทรงเรียกโมเสสเข้าเฝ้า ตรัสว่า “พวกเจ้าจงไปนมัสการพระยาห์เวห์เถิด แต่ให้ฝูงแกะและฝูงโคอยู่ ส่วนเด็กๆ ไปกับพวกเจ้าได้”
25 โมเสสจึงกราบทูลว่า “ฝ่าพระบาทต้องประทานเครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาเผาทั้งตัวแก่พวกข้าพระบาทด้วย เพื่อจะได้เตรียมถวายบูชาต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกข้าพระบาท
26 พวกข้าพระบาทต้องนำฝูงปศุสัตว์ไปด้วย ขาดไม่ได้สักตัวเดียว เพราะว่าจะต้องเอาสัตว์จากฝูงเหล่านั้นไปถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกข้าพระบาท นอกจากนี้พวกข้าพระบาทยังไม่ทราบว่าจะต้องเอาสัตว์ตัวไหนถวายพระยาห์เวห์จนกว่าจะถึงที่นั่น”
27 แต่พระยาห์เวห์ทรงทำให้พระทัยฟาโรห์กระด้าง ฟาโรห์จึงไม่ทรงยอมปล่อยพวกเขาไป
28 ฟาโรห์มีรับสั่งแก่โมเสสว่า “ไปให้พ้น ระวังตัวให้ดีเถอะ อย่ามาให้เราเห็นหน้าอีกเลย เพราะถ้าเจ้าเห็นหน้าเราวันไหน เจ้าจะตายวันนั้น”
29 โมเสสจึงกราบทูลว่า “ฝ่าพระบาทตรัสถูกแล้ว ข้าพระบาทจะไม่มาให้ฝ่าพระบาทเห็นหน้าอีกเลย”
แต่แล้วฟาโรห์ก็ยังใจแข็งกระด้างไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลออกไป และยังไล่โมเสสไม่ให้กลับมาอีก มันก็เป็นไปตามนั้น เพราะภัยพิบัติที่จะทำให้ฟาโรห์ต้องยอมคือภัยพิบัติครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย นั่นคือ
10. ภัยพิบัติจากการฆ่าบุตรหัวปี(อพยพ 11,12:29-32)
อพยพ 11:1-5
1 พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “เราจะนำภัยพิบัติมาสู่ฟาโรห์และอียิปต์อีกอย่างเดียว หลังจากนั้นฟาโรห์จะปล่อยพวกเจ้าไปจากที่นี่ เมื่อเขาปล่อยพวกเจ้าไป เขาจะไล่พวกเจ้าออกจากที่นี่จนหมดอย่างแน่นอน...
4 โมเสสประกาศว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘เวลาประมาณเที่ยงคืน เราจะออกไปท่ามกลางอียิปต์
5 และลูกหัวปีทั้งหมดในแผ่นดินอียิปต์จะตาย ตั้งแต่พระราชบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง จนถึงบุตรหัวปีของทาสหญิงผู้อยู่หลังเครื่องโม่แป้ง ทั้งลูกหัวปีของสัตว์ด้วย
ภัยพิบัตินี้คือ การฆ่าบุตรหัวปี โดยพระยาห์เวห์ทรงให้โมเสสทำบอกคนอิสราเอลให้ถือพิธีปัสกาครั้งแรก คือ การฆ่าแกะหัวปีนำเลือดของแกะหัวปีมาทาที่วงกบประตูบ้านเพื่อให้ทูตแห่งความตายผ่านเว้นไป นี่คือ ปัสกา คือ การผ่านเว้น(Passover) ไม่ต้องถูกการประหารบุตรหัวปี
อพยพ 12:2-12
2 “ให้เดือนนี้เป็นเดือนเริ่มต้นสำหรับพวกเจ้า ให้เป็นเดือนแรกในปีสำหรับพวกเจ้า
3 จงสั่งชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นว่า ในวันที่สิบเดือนนี้ ให้แต่ละคนเตรียมลูกแกะตัวหนึ่งให้ตนเองตามครอบครัวของบรรพบุรุษ บ้านละหนึ่งตัว...
6 จงเก็บไว้ให้ดีถึงวันที่สิบสี่เดือนนี้ แล้วในเย็นวันนั้น ให้ที่ประชุมของชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดฆ่าลูกแกะนั้น
7 แล้วเอาเลือดทาที่วงกบประตูทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสองข้างของบ้านที่พวกเขาเลี้ยงกันนั้นด้วย
3 จงสั่งชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นว่า ในวันที่สิบเดือนนี้ ให้แต่ละคนเตรียมลูกแกะตัวหนึ่งให้ตนเองตามครอบครัวของบรรพบุรุษ บ้านละหนึ่งตัว...
6 จงเก็บไว้ให้ดีถึงวันที่สิบสี่เดือนนี้ แล้วในเย็นวันนั้น ให้ที่ประชุมของชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดฆ่าลูกแกะนั้น
7 แล้วเอาเลือดทาที่วงกบประตูทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสองข้างของบ้านที่พวกเขาเลี้ยงกันนั้นด้วย
8 ในคืนวันนั้นให้พวกเขากินเนื้อปิ้งกับขนมปังไร้เชื้อและผักรสขม...
12 เพราะในคืนวันนั้น เราจะผ่านไปในแผ่นดินอียิปต์ และเราจะประหารลูกหัวปีทั้งหมดในแผ่นดินอียิปต์ทั้งของมนุษย์และของสัตว์ และเราจะพิพากษาลงโทษพระทั้งหมดของอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์
13 แต่เลือดตามบ้านที่เจ้าทั้งหลายอยู่นั้น จะเป็นหมายสำคัญสำหรับพวกเจ้า เมื่อเราเห็นเลือดนั้น เราจะผ่านเว้นพวกเจ้าไป จะไม่มีภัยพิบัติเกิดแก่พวกเจ้า ขณะที่เราโจมตีแผ่นดินอียิปต์
Meskhenet |
เทพเจ้าของอียิปต์คือ เทพเจ้านัท (Nut) เป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้านั้นยังเป็นเทพเจ้าองค์เดียวที่สามารถจะยับยั้งความตายเอาไว้ได้ แต่ในครั้งนี้บุตรหัวปีทุกคนในอียิปต์ตั้งแต่พระราชบุตรหัวปีของฟาโรห์
จนถึงบุตรหัวปีของเชลยที่อยู่ในคุกมืดและสัตว์เลี้ยงทุกตัวถูกทูตแห่งความตายสังหารหมด
แม้แต่เทพเจ้า เมสคเน้ทท์
(Meskhenet) เทพเจ้าแห่งการคุ้มครองเด็กๆ (God of childbirth) ของอียิปต์ ก็ไม่สามารถช่วยกู้ชีวิตของบุตรหัวปีคนอียิปต์ได้
และครั้งนี้เองที่ฟาโรห์ยอมให้โมเสสและอาโรนนำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์
จึงเป็นบทสรุปว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล ยิ่งใหญ่เหนือกว่าบรรดาเทพเจ้าต่างๆของอียิปต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น