เข้าใจสัตว์สะอาดและสัตว์มลทิน (ระวังหิว) โดย Haiyong Kavilar
เรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังในที่นี้ก็คือเรื่องสัตว์สะอาดและสัตว์มลทิน
พวกเราที่อยู่ในพันธสัญญาใหม่ต่างก็รู้ว่าโดยพระคริสต์สิ่งต่างๆก็ได้รับการชำระแล้ว
ผู้เชื่อในพันธสัญญาใหม่จึงสามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้ทุกชนิด
ซึ่งต่างจากพันธสัญญาเดิมที่ได้จำแนกสัตว์สะอาดและสัตว์มลทิน
อย่างไรก็ตามแม้ผู้เชื่อในพันธสัญญาใหม่จะหลุดพ้นจากธรรมบัญญัติแล้ว แต่ธรรมบัญญัติก็ยังคงมีแบบเล็งหลายๆอย่างที่เล็งถึงพันธสัญญาใหม่
เช่น การถวายเครื่องบูชาไถ่บาปเล็งถึงพระคริสต์ทรงเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
หีบพันธสัญญาที่ทำด้วยไม้กระถินเทศหุ้มทองคำก็เล็งถึงพระเยซูที่มีสภาพพระเจ้า(มีทองคำเป็นแบบเล็ง)ผสมผสานกับสภาพมนุษย์(มีไม้กระถินเทศเป็นแบบเล็ง)
เรื่องสัตว์สะอาดและสัตว์มลทินก็มีแบบเล็งเช่นกัน (รายการของสัตว์สะอาดและสัตว์มลทิน
เพื่อนๆสามารถดูได้จาก เลวีนิติ บทที่ 11)
การรับประทานอาหารเล็งถึงการที่เรารับบางสิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา
เมื่อเรากินอะไรสิ่งนั้นก็จะย่อยและก่อรูปเป็นตัวเรา
ในธรรมบัญญัติพระเจ้าปรารถนาให้ประชากรของพระองค์รู้จักแยกแยะสิ่งสะอาดและสิ่งมลทิน
ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนว่าผู้เชื่อในพันธสัญญาใหม่ควรรู้จักแยกแยะสิ่งต่างๆก่อนที่รับจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา
สัตว์สะอาดจำพวกแรกที่กล่าวถึง คือสัตว์ที่แยกกีบและเคี้ยวเอื้อง
การแยกกีบเล็งถึงการดำเนินชีวิตที่รู้จักแยกแยะ
ส่วนการเคี้ยวเอื้องเล็งถึงการรับพระวจนะมาใคร่ครวญ
พระเจ้าทรงปรารถนาให้เรารับสัตว์สะอาดมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา
ก็คือการดำเนินชีวิตที่รู้จักแยกแยะและรับพระวจนะมาคิดทบทวน สัตว์มลทินจำพวกแรกก็คือสัตว์ที่ไม่แยกกีบหรือไม่เคี้ยวเอื้อง
ซึ่งพระเจ้าไม่ต้องการให้เรารับสิ่งมลทินนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา
สิ่งมลทินนี้หมายถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่รู้จักแยกแยะและไม่คิดทบทวนพระวจนะ
สัตว์จำพวกที่สองคือสัตว์ในน้ำ
ซึ่งธรรมบัญญัติได้ชี้ว่าสัตว์ในน้ำที่สะอาดคือสัตว์ที่มีครีบและมีเกล็ด
การมีครีบเล็งถึงการต้านทานกระแสของความตาย
การมีเกล็ดเล็งถึงการไม่ปล่อยให้ความตายเข้ามาในชีวิต
ในพระคัมภีร์เกลือและความเค็มเป็นเครื่องหมายเล็งถึงความตาย
ด้วยเหตุนี้ทะเลที่มีความเค็มมากที่สุดในพระคัมภีร์จึงมีชื่อว่าทะเลตาย
ธัญบูชาที่ถวายแด่พระเจ้าก็ต้องใส่เกลือ
ธัญบูชาเล็งถึงการดำเนินชีวิตที่มอบถวายแด่พระเจ้า
ส่วนการใส่เกลือเล็งถึงการตายต่อบาป
สัตว์น้ำที่ไม่มีเกล็ดจึงเล็งถึงการปล่อยให้ความเค็ม(ความตาย)เข้ามาภายใน
ส่วนสัตว์น้ำที่ไม่มีครีบเล็งถึงการไหลไปตามกระแสของความตายโดยไม่สามารถที่จะทวนกระแสได้
พระเจ้าปรารถนาให้เราเป็นสัตว์น้ำที่สะอาดที่มีครีบและมีเกล็ดคือสามารถต้านทานกระแสของความตาย(ครีบ)และไม่ปล่อยให้ความตายเข้ามาภายใน(เกล็ด)
เราไม่ควรรับการดำเนินชีวิตที่ไม่มีครีบและไม่มีเกล็ดมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา
สัตว์อีกจำพวกหนึ่งที่พระคัมภีร์กล่าวถึงคือแมลง
แมลงมลทินคือแมลงที่คลานไปตามดินที่ไม่สามารถกระโดดได้
แมลงมลทินจึงเล็งถึงการดำเนินชีวิตที่คลานไปตามโลกโดยไม่สามารถเอาชนะแรงดึงดูดจากโลกได้
ส่วนแมลงสะอาดคือแมลงที่มีปีกและมีขาพับที่กระโดดได้ แมลงสะอาดจึงเล็งถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่คลานไปตามโลกแต่สามารถเอาชนะแรงดึงดูดของโลกได้
ดั่งที่พระเยซูได้ตรัสไว้ว่าผู้เชื่ออยู่บนโลกแต่ผู้เชื่อไม่ใช่ของโลก
ปัจจุบันนี้ก็มีบางคนไม่กินเนื้อสัตว์มลทินในธรรมบัญญัติ
เช่น ไม่กินหมู ไม่กินปลาดอรี่(ปลาดอรี่ไม่มีเกล็ด) ซึ่งบางคนก็ให้เหตุผลว่าสัตว์มลทินในธรรมบัญญัติกินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตามถ้าการกินสัตว์มลทินทำให้เสียสุขภาพ
คนยิวที่กินอาหารตามธรรมบัญญัติก็น่าจะมีอายุยืนที่สุดบนโลก
แต่จากสถิติก็พบว่าคนยิวก็ไม่ได้มีอายุยืนมากที่สุดในโลก
บางประเทศที่ไม่ได้กินอาหารตามธรรมบัญญัติก็มีอายุยืนมากกว่าชาวยิว
ดังนั้นเหตุผลที่ว่าการกินสัตว์มลทินทำให้เสียสุขภาพจึงอาจตกไป
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าโดยพระคริสต์สิ่งต่างๆก็ได้รับการชำระให้สะอาดแล้ว
ส่วนตัวผมคิดว่าปัจจัยหลักในการจำแนกสัตว์สะอาดและสัตว์มลทินในธรรมบัญญัติไม่น่าใช่เรื่องของการรักษาสุขภาพ
แต่น่าจะเป็นเรื่องของภาพอุปมาที่เล็งถึงการดำเนินชีวิตมากกว่า ขอพระคุณของพระเยซูคริสต์จงดำรงอยู่กับเพื่อนๆ
Haiyong
Kavilar
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หนังสือ
บทเรียนชีวิต เลวีติโก เล่ม2 เขียนโดย วิทเนส ลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น