บทความเรื่อง "รับสุขกับสื่อบันเทิง ผิดหรือไม่? "
โดย Philip Kavilar
กรอบความคิดแบบกรีก
ในกรอบความคิดแบบกรีกมักจะมองว่า โลกฝ่ายกายภาพรวมทั้งสิ่งบันเทิงต่างๆเป็นสิ่งชั่วคราวและไม่บริสุทธิ์ แต่โลกฝ่ายวิญญาณหรือชีวิตฝ่ายวิญญาณเป็นสิ่งบริสุทธิ์และนิรันดร์ ผู้ใดที่คุ้นเคยกับกรอบความคิดแบบกรีกมักจะรู้สึกผิดเมื่อดูภาพยนตร์ หรือฟังเพลง หรือดูกีฬา เพราะผู้นั้นมักจะรู้สึกว่าการรับสิ่งบันเทิงแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์เท่ากับการอธิษฐานหรือการนมัสการ
กรอบความคิดแบบฮีบรู
กรอบความคิดแบบฮีบรูเป็นมุมมองหนึ่งที่มองโลกต่างไปจากกรอบความคิดแบบกรีก ในกรอบความคิดแบบฮีบรูมองว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างโลกกายภาพและโลกฝ่ายวิญญาณและไม่ว่าจะเป็นสิ่งชั่วคราวหรือสิ่งนิรันดร์ก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมาทั้งคู่ด้วยเหตุนี้ มุมมองความคิดแบบฮีบรูจะให้ความรู้สึกว่า โลกกายภาพกับโลกวิญญาณต่างก็เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์พอๆกัน
คำหนึ่งในภาษาฮีบรูที่แปลว่าการนมัสการคือคำว่า “Avodah” ซึ่งศัพท์คำนี้จะแปลว่า การทำงาน ก็ได้ ในกรอบความคิดแบบฮีบรูการทำงานอาชีพในโลกกายภาพ นับเป็นสิ่งบริสุทธิ์และเป็นการนมัสการอย่างหนึ่งในมุมมองความคิดแบบฮีบรู การทำงานในโลกกายภาพ ไม่ได้บริสุทธิ์น้อยไปกว่า การทำพันธกิจในโลกฝ่ายวิญญาณ
พระเจ้าเองก็เป็นบุคคลที่มีมิติของศิลปะและความบันเทิงเมื่อพระเจ้าทรงสร้างสิ่งต่างๆพระองค์ทรงชื่นชมและทรงบันเทิงไปกับสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างการที่มนุษย์เรากระหายหาสิ่งบันเทิงหรือความตื่นเต้น ก็ไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไรเพราะมนุษย์ถูกสร้างขึ้นตามพระฉายของพระเจ้าในพระคัมภีร์ก็บันทึกว่าพระเจ้าทรงมีอารมณ์และพระองค์ก็ทรงรู้สึกปิติและเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆที่พระองค์ทรงสร้างการที่มนุษย์เรามีความปิติเมื่อรับสิ่งบันเทิงก็เป็นการสะท้อนถึงพระฉายของพระเจ้าอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่า สื่อบันเทิงทุกอย่างจะเป็นสิ่งสะอาดเสมอไปบนโลกนี้ก็มีสื่อบันเทิงหลายอย่างที่สะอาดและสร้างสรรค์แต่บนโลกนี้ก็ยังมีสื่อบันเทิงที่ชั่วร้ายและทำลายผู้คนอยู่การรับสื่อบันเทิงเป็นสิ่งไม่ผิด แต่สิ่งสำคัญคือ เราจำต้องรับสื่อบันเทิงที่สะอาดและสร้างสรรค์จินตนาการของเรา
ในบทความที่แล้ว ผมอธิบายว่าเพลงชาวโลกไม่ได้เป็นมลทินเพราะเพลงชาวโลกหลายๆเพลงกำลังสะท้อนถึงเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวอันเป็นภาพสะท้อนแห่งความรักระหว่างพระคริสต์กับคริสตจักร เพลงชาวโลกหลายๆเพลงแม้จะประพันธ์โดยคนไม่เชื่อก็ยังสะท้อนภาพของเรื่องฝ่ายวิญญาณระหว่างพระคริสต์กับคริสตจักรโดยที่ผู้ประพันธ์ก็ไม่รู้ตัวกระนั้นก็ไม่ใช่ว่า เพลงทุกเพลงจะสะอาดเสมอไป บนโลกนี้ มีเพลงหลายๆเพลงที่ให้ความหมายที่ดีและสะท้อนถึงเรื่องราวฝ่ายวิญญาณ แต่บนโลกนี้ก็มีเพลงหลายๆเพลงที่ให้ความหมายที่ไม่ดีและสร้างมลพิษให้กับผู้คนการรับฟังเพลงรักหรือเพลงทั่วๆไปก็ไม่ได้เป็นสิ่งผิดอะไร แต่สิ่งสำคัญคือพวกเราจำต้องแยกแยะและเลือกในการรับฟังเพลงต่างๆ
คำขอบคุณ
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพี่คริสต์ ข้อแนะนำในการใช้ชีวิตของท่าน เป็นประโยชน์ต่อผมมากทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น