21 มิถุนายน 2559

เศบูลุน-เรือสำเภามุ่งสู่จุดหมาย

หาก "เรือ"จอดอยู่ที่ท่าเรือเฉยๆ มันคงจะไม่เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น เพราะ"เรือ"ถูกสร้างมาเพื่อที่ออกเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง

(หากเป็นบ้านเรา เรือที่จอดอยู่กับที่ คงนำไปตั้งไว้ที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือแล้ว)


ผมกำลังกล่าวถึงเผ่าหนึ่งใน 12 เผ่าของอิสราเอล นั่นคือ "เผ่าเศบูลุน"(Zebulun) ซึ่งเป็นเผ่าประจำเดือนสิวัน หรือ สิวาน (Sivan)(ช่วงวันที่ 7 มิ.ย.-6 ก.ค.2016)


เดือนนี้มีเทศกาลที่สำคัญ คือ เทศกาลเพ็นเทคอสต์(Pentecost) (ปี 2016 ตรงกับวันที่11-13 มิ.ย.) หรือ เรียกตามภาษาฮีบรู คือ เทศกาลสัปดาห์(ชาวูโอ็ท-Shavuot) หมายถึง 7 สัปดาห์เพราะนับได้ 7 สัปดาห์ (49 วัน)หลังจากเทศกาลปัสกา(Passover) เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ระลึกถึงพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ 

ในพันธสัญญาเดิมเมื่อคนอิสราเอลเดินทางมาถึงภูเขาซีนาย พวกเขาได้รับพันธสัญญาจากพระยาห์เวห์ พระองค์ได้ประทานพระบัญญัติ 10 ประการ 

ในยุคของคริสตจักรคือยุคพันธสัญญาใหม่  พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จเหนือสาวกที่ห้องชั้นบนในกรุงเยรูซาเล็ม(กจ.2) ในเทศกาลเพ็นเทคอสต์(Pentecost) (Pentecost หมายถึง 50 วัน)

(สามารถอ่านบทความเรื่อง "Pentecost เทศกาลแห่งพันธสัญญา" ได้ที่ link ไว้ครับ)

เดือน "สิวัน"(Sivan) เดือนที่ 8 ตามปฏิทินแบบราชการ (Civil calendar)และเป็นเดือนที่ 3 ตามปฏิทินฮีบรูแบบศาสน(Ecclesiastical Calendar)  คำว่า "สิวัน" หมายถึง ฤดูกาล(Season) ,เวลา(Time)
เป็นช่วงเวลาสำคัญใน 3 เดือนแรกของวงจรเวลาแห่งพระพรของพระยาห์เวห์

เดือนสิวันเป็นเดือนที่พระราชกฤษฎีกาของกษัตริย์อาหสุเอรัสได้ป่าวประกาศออกไป ทำให้คนยิวมีชัยชนะเหนือศัตรูที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์(เอสเธอร์ 8:9)  

เดือนสิวันเป็นเดือนแห่ง"เผ่าเศบูลุน"(Zebulun) ซึ่งเป็นเผ่า 3 เผ่าแรกที่เคลื่อนไปข้างหน้าชนชาติอิสราเอล นั่นคือ ยูดาห์ อิสสาคาร์และเศบูลุน 

(เราได้เรียนรู้ในเรื่องของ สิงห์เผ่ายูดาห์ และ เผ่าอิสสาคาร์ ลาที่มีกำลังกล้าหาญ ไปแล้ว สามารถอ่านบทความที่เคยเขียนไว้ได้ตาม Link ครับ )

สัญลักษณ์ประจำ"เผ่าเศบูลุน"(Zebulun) คือ รูปเรือสำเภา(ship) เพราะอัตลักษณ์ของพวกเขาคือ 

เผ่าแห่งนักธุรกิจ  พระเจ้าทรงมีเป้าหมายให้พวกเขาไปสู่ความรุ่งเรือง  ตามถ้อยคำที่มาสู่เผ่าเศบูลุน 



 คำอวยพรของยาโคบที่มีต่อเศบูลุน  

ปฐมากาล 49:13 "...เศบูลุน จะอาศัยอยู่ที่ท่าเรือริมทะเล เขาจะเป็นท่าจอดเรือ เขตแดนของเขาจะต่อกันกับเมืองไซดอน..."

คำอวยพรของโมเสสแก่เผ่าเศบูลุน


เฉลยธรรมบัญญัติ  33:18-19 "...เศบูลุนเอ๋ย จงปีติร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์เอ๋ย จงปีติร่าเริงในเต็นท์ของตน เขาจะเรียกชนชาติทั้งหลายมาที่ภูเขาและถวายเครื่องสัตวบูชาอันถูกต้องที่นั่น เพราะเขาจะดูดความอุดมจากทะเล และได้ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทราย

จากการอ่านพระคำทั้ง 2 ตอนนี้เราจะเห็นถึงความชัดเจนในอัตลักษณ์(Identity)และเป้าประสงค์ลิขิต(Destiny) ที่พระยาห์เวห์มีในชีวิตของเขา นั่นคือ พวกเขาเป็นดั่ง "เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย"

ไม่ใช่เรือที่จอดไว้ที่ท่าเรือเท่านั่น พวกเขาต้องออกไปล่าขุมสมบัติ แต่พวกเขาไม่ใช่เรือโจรสลัดนะครับ พวกเขาเป็นเรือสำเภาที่ออกไปทำการค้า


Zebulun
เรามาทำความรู้จักเผ่าเศบูลุนด้วยกันในครั้งนี้

เผ่าเศบูลุน เป็น 1 ในบรรดา 12 เผ่าของอิสราเอล ตามบันทึกในพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ในหมวดพระธรรมเบญจบรรณ(Torah)  เศบูลุน ซึ่งเป็นบุตรชายคนที่ 10 ของยาโคบ (อิสราเอลที่เกิดกับ

นางเลอาห์ ภรรยาคนแรกของยาโคบ โดยเศบูลุนนั้น เป็นบุตรชายคนที่ 6 ที่นางเลอาห์มีให้แก่ยาโคบ

ปฐมกาล 30:20  นางจีงได้กล่าวว่า "บัดนี้สามีคงจะให้เกียรติข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้วเศบูลุน จึงมาจากคำภาษาฮีบรู ที่ออกเสียงว่า ศาบัล ซึ่งแปลว่า ให้เกียรติ 

นางเลอาห์ตั้งชื่อลูกด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมผัวไม่รัก อยากที่จะให้ผัวคือยาโคบรักและให้เกียรติเธอบ้าง เพราะเธอมีลูกชายให้กับยาโคบมาแล้วถึง 6 คนนั่นคือ รูเบน,สิเมโอน,เลวี, ยูดาห์,อิสสาคาร์และเศบูลุน ชื่อแต่ละคนก็สะท้อนความคิดของเธอ ดังนี้ (ผมขอตั้งเป็นชื่อภาษาไทยเผื่อให้จำได้ง่ายๆครับ)

1.รูเบน(Reuben) ลูกชายคนโต ชื่อหมายความว่า "บุตรชาย" หรือ "สมชาย" จะบอกว่ายาโคบว่าเธอมีลูกชายให้แล้วนะ รู้ยัง เพราะการมีลูกชายจะทำให้ยาโคบรักเธอ แต่ยาโคบรักนางราเชล 

2.สิเมโอน(Simeon) ชื่อหมายความว่า "รับฟัง" หรือ เด็กชาย"สดับฟัง" เพื่อสำนึกถึงการที่พระยาห์เวห์ทรงสดับรับฟังเสียงคำอธิษฐานของเธอ ทำให้เธอได้มีบุตรคนที่สองกับยาโคบ

3.เลวี(Levi)  ชื่อหมายความว่า "สนิทสนม" หรือ เด็กชาย"สนิทใจ" เหตุที่เธอตั้งชื่อบุตรเช่นนี้เพราะต้องการให้สามีสนิทสนมกับเธอบ้าง

4.ยูดาห์(Judah) ชื่อหมายความว่า "การยกมือขึ้น สรรเสริญ" หรือ เด็กชาย "สรรเสริญ" เป็นการแสดงถึงการขอบพระคุณพระยาห์เวห์ที่ทรงประทานบุตรให้กับเธออีก

5.อิสสาคาร์(Issachar) ชื่อหมายความว่า "สินจ้าง"(hire) หรือ เด็กชาย "สินชัย" นางเลอาห์ จึงตั้งชื่อลูกว่า อิสสาคาร์  หมายถึง  "สินจ้าง"(hire) ค้าจ้างที่ได้ให้ผลดูดาอิมกับนางราเชลเพื่อได้หลับนอนกับยาโคบ 

6.เศบูลุน(Zebulun) ชื่อหมายความว่า "การให้เกียรติ" หรือ เด็กชาย "สมเกียรติ"

จะเห็นได้ว่าแม้ว่า นางเลอาห์จะมีลูกชายถึง 6 คนให้กับยาโคบแต่สิ่งที่นางไม่ได้รับคือ ความสนใจและความรักที่สามีควรจะมีต่อภรรยา ไม่ว่าจะมี เด็กชาย สมชาย,สดับฟัง,สนิทใจ,สรรเสริญ,สินชัยและเด็กชายสมเกียรติ แต่ยาโคบก็ยังมีความรักต่อนางราเชลไม่เปลี่ยนแปลง

แม้ว่าครอบครัวของเศบูลุนจะเป็นเช่นไร แต่เป้าประสงค์ลิขิตที่พระยาห์เวห์ทรงมีในชีวิตของเขา พระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จ เศบูลุนมีการเจิมไปสู่ความรุ่งเรือง
เฉลยธรรมบัญญัติ  33:18-19
"...เศบูลุนเอ๋ย จงปีติร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์เอ๋ย จงปีติร่าเริงในเต็นท์ของตน เขาจะเรียกชนชาติทั้งหลายมาที่ภูเขาและถวายเครื่องสัตวบูชาอันถูกต้องที่นั่น พราะเขาจะดูดความอุดมจากทะเล และได้ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทราย"   

เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย

การเจิมของเผ่าอิสสาคาร์และเศบูลุนทำงานร่วมกัน โมเสสอวยพรเผ่าเศบูลุนและอิสสาคาร์พร้อมกัน เพราะทั้ง 2 เผ่า มีแม่คนเดียวกัน คือ นางเลอาห์  และมีอาชีพเป็นพ่อค้าเหมือนกัน 

คำว่า "ดูดความอุดมจากทะเล" หมายความว่า เผ่าทั้ง 2 เผ่าทำการเกษตรและค้าขายทางทะเล 

การเจิมของเผ่าอิสสาคาร์เป็นความเข้าใจ(Understanding) พวกเขาอยู่ในเต็นเพื่อศึกษาพระวจนะของพระยาห์เวห์ เพื่อทราบวาาระเวลาของพระองค์  


ส่วนการเจิมของเผ่าเศบูลุนเป็นการยอมรับ(Acknowledgement)ความจริงใจ(sincerely) ที่เดินไปร่วมกันตามการทรงนำของพระเจ้า  
พวกเขาเป็นนักธุรกิจและเป็นนักถวายที่สำคัญ พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนกองกำลังของอิสราเอล  เพราะเขานำสิ่งต่างๆมาถวายเพื่อสร้างพลับพลาที่ประทับของพระยาห์เวห์  

นอกจากนี้พวกเขามีความสัตยซื่อในการดำเนินชีวิต เผ่าเศบูลุนเป็นเผ่านักรบที่ไม่ได้เป็นคน “สองจิตสองใจ(double minded) ร่วมต่อสู้กับกษัตริย์ดาวิด(1 พศด.12:33) นี่คือ ความสัตย์ซื่อที่เป็นเหตุให้พระเจ้าอวยพระพรเพราะเขามีใจเดียว ไม่ลังเล เขาจึงได้รับการจัดสรรจัดเตรียมเสบียงอาหารต่างๆ มาเลี้ยงฉลองในงานเลี้ยงเชิญดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ที่เมืองเฮโบรนอีกด้วย

สิ่งที่เราเรียนรู้จากเผ่าเศบูลุน คือ  เราต้องไม่ยอมให้ค่านิยมของโลกมาทำลายความเชื่อในพระเจ้าของเรา(โรม12:2) และดำเนินชีวิตอย่างสัตย์ซื่อและทำส่วนของเราอย่างเต็มที่ เพื่อรับพระพรและความโปรดปรานในความชอบธรรม(ยากอบ4:4-6)

แม้ว่าพวกเขาจะมีความจำกัดแต่พระยาห์เวห์ทรงขยายขอบเขตความจำกัดในชีวิตของเขาให้มากขึ้น 

จากคำเผยพระวจนะนั้นเผ่าเศบูลุนจะมั่งคั่งผ่านการค้าขายทางทะเล   แต่ปัญหาก็คือดินแดนของเผ่าเศบูลุนไม่ติดกับทะเล  แต่พระยาห์เวห์ได้ขยายขอบเขตให้แก่เผ่าเศบูลุนผ่านทางดินแดนของเผ่านัฟทาลี(มัทธิว 4:13) 

ดังนั้นเมื่อพระเจ้าทรงมีเป้าประสงค์ในชีวิตของเราจะไม่มีสิ่งใดที่จำกัด เราต้องอธิษฐานขอให้พระองค์ขยายขอบเขตชีวิตเราให้มากขึ้น

ดั่งเช่นคำอธิษฐานของยาเบส  1 พงศาวดดาร 4:10 ยา​เบส​ทูล​พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล​ว่าขอ​พระ​องค์​ทรง​อวย​พระ​พร​แก่​ข้า​พระ​องค์ และ​ขยาย​เขต​แดน​ของ​ข้า​พระ​องค์  

สิ่งที่เราเรียนรู้จากชีวิตของยาเบสและเศบูลุนคือ ยาเบส ชื่อของเขาแปลว่า เจ็บปวด แต่เขาไม่ยอมให้สิ่งนี้มาขัดขวางชีวิตของเขา เขาขอการอวยพรและการขยายชีวิตของเขาออกไปเพื่อรับพระพร

เศบูลุนก็เช่นเดียวกัน  แม้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่แม่ของเขาคือเลอาห์ไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่ได้รับเกียรติ แต่เศบูลุนไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อม ครอบครัว แต่เขาสัตย์ซื่อดำเนินชีวิตตามถ้อยคำแห่งการอวยพรและเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะสำเร็จ


พวกเขาเป็นเรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย ไม่ยอมให้เป็นเรือที่ยอมแน่นิ่งอยู่บนท่าเรือ และไม่ยอมให้ความเชื่อค่านิยมของโลกทำให้เรืออับปาง เรือต้องอยู่บนน้้ำไม่ใช่กระแสสังคมที่เป็นน้ำที่สาดเข้ามาในเรือจนทำให้เรือจมลงไปและอับปาง


เรือสำเภาที่ยึดสมอไม่ให้อับปาง

อัครทูตเปาโลได้เขียนจดหมายถึงทิโมธี และเตือนพี่น้องในคริสตจักรให้ระมัดระวังค่านิยมโลก คำสอนที่ผิด และยึดความเชื่อไว้ไม่ให้ความเชื่ออับปางลงไป   


1 ทิโมธี 1:19 จง​ยึด​ความ​เชื่อ​ไว้ และ​มี​จิตสำนึก​ว่า​ตน​ชอบ ซึ่ง​ข้อ​นี้​บาง​คน​ได้​ละ​ทิ้ง​เสีย ความ​เชื่อ​ของ​เขา​จึง​อับปาง​ลง​

สิ่งที่เป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ที่เป็นักธุรกิจเพื่อพระเจ้า เป็นดั่งเช่นเผ่าเศบูลุนคือ ต้องไม่รับค่านิยมของโลกเข้ามาในชีวิต ต้องระลึกถึงว่าเงินที่หามาได้ มาจากการอวยพรของพระเจ้า และต้องเตือนใจตลอดเวลาในการทำงานว่า ให้เป็นเรือที่มีจุดหมายเพื่อเป้าประสงค์ของพระเจ้า ไม่เช่นนั้น เรือนั้นอาจจะเป็นเรือโจรสลัด สะสมทรัพย์สมบัติที่หามาได้เพื่อตนเอง 

ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เรือของเผ่าเศบูลุนเหมือนเรือที่เจอมรสุมเศรษฐกิจ แต่ขอให้พระเจ้าทรงเป็นความหวัง เป็นดั่งสมอที่ยึดเรือไว้เพื่อผ่านคลื่นลม 

ฮีบรู 6:19 ความ​หวัง​ที่​เรา​ยึด​นั้น​เป็น​เสมือน​สมอ​ที่​แน่​และ​มั่นคง​ของ​จิตใจ ...


เรือสำเภานำข่าวประเสริฐออกไปทั่วโลก



เรื่องราวของเผ่าเศบูลุน ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกประการ นั่นคือ พวกเขาเป็นเผ่าที่ได้รับข่าวประเสริฐและส่งมิชชั่นนารีออกไปสู่ปลายแผ่นดิน

ในสมัยก่อนนั้นดินแดนของเผ่าเศบูลุนและนัทาลี(กาลิลี) เป็นเขตแดนที่เป็นที่ดูหมิ่น เหยียดหยาม  คนยิวจากยูเดียเรียกบริเวณนี้ว่า เป็น กาลิลีของพวกนอกรีต  ดินแดนที่อยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งความตาย"

แต่ถ้อยคำเผยพระวจนะจากอิสยาห์ กล่าวไว้ว่า นี่คือดินแดนแห่งความรุ่งโรจน์ 

อิสยาห์ 9:1-2   
1 แต่กระนั้นแผ่นดินนั้นซึ่งอยู่ในความแสนระทมจะไม่กลัดกลุ้ม ในกาลก่อนพระองค์ทรงนำแคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลีมาสู่ความดูหมิ่น แต่ในกาลภายหลังพระองค์จะทรงกระทำให้หนทางข้างทะเล แคว้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น คือ กาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติ ให้เจ็บปวดทรมานอย่างมาก 
2 ชนชาติที่ดำเนินในความมืดได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่แล้ว บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช สว่างได้ส่องมาบนเขา

คำเผยพระวจนะของอิสยาห์ก็ได้สำเร็จเป็นจริงในสมัยของพระเยซูคริสต์ 
มัทธิว 4:12-16
12 ครั้น​พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​ข่าว​ว่า​ยอห์น​ถูก​จำ​ไว้​แล้ว​ ​พระ​องค์​ก็​เสด็จ​ไป​ยัง​แคว้น​กาลิลี​ 
13 แล้ว​ย้าย​ที่​ประทับ​จากเมือง​นาซาเร็ธ​ไป​ที่​เมือง​คาเปอร​นาอุม ซึ่ง​อยู่​ริม​ทะเลสาบ​ที่​เขต​เผ่า​เศบู​ลุน​และนัฟ​ทา​ลี​
14 เพื่อ​จะ​สำเร็จ​ตาม​พระ​วจนะ ซึ่ง​ตรัส​ไว้​โดย​อิสยาห์​ผู้เผย​พระ​วจนะ​ว่า   
15 แคว้น​เศบู​ลุน​และ​แคว้น​นัฟ​ทา​ลี  ทาง​ข้าง​ทะเล​ฟาก​แม่น้ำ​จอร์แดน​ข้าง​โน้น คือ​กาลิลี แห่ง​บรรดา​ประชาชาติ    
16 ประชาชน​ผู้​นั่ง​อยู่​ใน​ความ​มืด  ได้​เห็น​ความ​สว่าง​ยิ่งใหญ่  และ​ผู้​ที่​นั่ง​อยู่​ใน​แดน​และ​เงา​แห่ง​ความ​ตาย  ​ก็​มี​ความ​สว่าง​ขึ้น​ส่อง​ถึง​เขา​แล้ว”   

เผ่าเศบูลุนเป็นเผ่าที่ได้ยินข่าวประเสริฐครั้งแรกของโลก 

เมื่อพระเยซูคริสต์ดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี ทรงเรียกเปโตร ยากอบ และยอห์น และสาวกคนอื่นๆ  มาเป็น “ผู้จับคนดั่งจับปลา” และเป็นผู้ได้ชื่อว่า "ชาวประมงผู้คว่ำโลก"(ลูกา 5:1-11)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตแดนของเผ่า​เศบู​ลุน​และนัฟ​ทา​ลี​   เมืองนาซาเร็ธเป็นเมืองที่พระเยซูคริสต์ทรงเติบโตขึ้น  คาเปอรนาอูม เป็นเมืองศูนย์กลางในการทำพันธกิจของพระองค์  ทั้ง 2 เมืองอยู่ในเขตแดนของเผ่าเศบูลุน

พระเยซูทรงเทศนาบนเรือในทะเลกาลิลี  ทรงส่งสาวกของพระองค์ออกไปทั่วโลก

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรในเดือนนี้เป็นเดือนแห่งเผ่าเศบูลุน-เรือสำเภาที่มุ่งสู่จุดหมาย ขอพระองค์ทรงเป็นกัปตันเรือ พระวิญญาณทรงเป็นลมที่พาเรือไป และพระวจนะของพระองค์ทรงเป็นแผนที่ที่เราทุกคนจะไปสู่เป้าประสงค์ของพระองค์ 

ติดตามตอนต่อไปนะครับ เดือนทัมมุส เดือนแห่งเผ่ารูเบน

06 มิถุนายน 2559

Pentecost เทศกาลแห่งพันธสัญญา

ช่วงวันที่ 5-7เดือนสิวัน (ปี 2016 ตรงกับวันที่11-13 มิ.ย.)ชาวยิวมีการฉลองเทศกาลสัปดาห์(Shavuot:ชาวูโอ๊ท)หรือPentecost(แปลว่า 50)
ในพันธสัญญาเดิม(OT)เป็นการฉลอง7 สัปดาห์หลังจากเทศกาลปัสกา(Pesach) ที่พวกเขาออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ ตลอดช่วงเวลาในถิ่นทุรกันดารพระยาห์เวห์ทรงจัดเตรียมมานาจำนวน 1 หม้อโอเมอร์ให้กับพวกเขาในแต่ละวัน จึงมีการนับโอเมอร์ในแต่ละวันจากเทศกาลปัสกาถึงเทศกาลสัปดาห์ได้ 49 วัน(7 สัปดาห์) เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งพระพร
เทศกาลนี้พระยาห์เวห์ทรงประทานพระบัญญัติ10 ประการจารึกบนแผ่นศิลา(Luchot)บนภูเขาซีนาย เป็นพันธสัญญารักนิรันดร์ของพระยาห์เวห์ที่ทรงทำกับชนชาติอิสราเอล
เทศกาลนี้พวกเขาได้นำผลแรกที่เพิ่มพูนจากเทศกาลปัสกาคือนำขนมปัง 2 ก้อนมาถวายซึ่งทำจากข้าวสาลีที่พวกเขาปลูกได้เอง มานาก็หมดไปเพราะนั่นเป็นเพียงอาหารชั่วคราว หลังจากนั้นไปพวกเขาได้กินพืชผลที่พวกเขาได้ปลูกในดินแดนใหม่ไม่ใช่ดินแดนทาสในอียิปต์
พวกเขาจึงได้เก็บหม้อมานา ศิลาพระบัญญัติ และไม้เท้าอาโรนไว้ในหีบพันธสัญญาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในเทศกาลนี้
ในพันธสัญญาใหม่(NT) พระเยซูคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขนในเทศกาลปัสกา หลังจากนั้น 3 วันทรงฟื้นจากความตาย ทรงอยู่กับพวกสาวกอีก 40 วัน เพื่อทรงสอนเรื่องอาณาจักรสวรรค์
ในวันที่พระเยซูทรงเสด็จขึ้นสวรรค์ ทรงกำชับว่าให้รอคอยการเสด็จมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (กจ.1:8)
และในวันที่ 50 หลังจากปัสกาในเทศกาลเพ็นทอสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เสด็จมาเหนือสาวก 120 คนที่เฝ้าอธิษฐานรอคอยที่ห้องชั้นบน กรุงเยรูซาเล็ม(กจ.2) เป็นการเริ่มต้นเกิดคริสตจักรอย่างเป็นทางการ และข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรสวรรค์ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก
นี่คือการเชื่อมระหว่าง 2 สิ่งคือพันธัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่ คือแผ่นศิลา 2 แผ่น ซึ่งเป็นพันธสัญญาแห่งรักนิรันดร์ ระหว่างพระยาห์เวห์กับคนของพระองค์
ขนมปัง 2 ก้อนคือ คนยิวกับคนต่างชาติเชื่อมกันเป็นคนใหม่คนเดียวกัน ผ่านทางในพระเยซูคริสต์(อฟ.2:15) ทรงเป็นอาหารแห่งชีวิต(bread of life) พระบัญญัติ 2 ข้อใหญ่คือจงรักพระเจ้าด้วยสุดใจและจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองได้รวมเป็นหนึ่งผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในเรา
พระองค์ทรงประทานพระบัญญัติใหม่คือพระบัญญัติแห่งรัก ที่ไม่ได้จารึกบนแผ่นศิลาแต่จารึกในหัวใจ(2คร.3:3) ความรู้อาจจะเพิ่มรอยหยักที่หัวสมอง แต่ความรักของพระองค์เป็นรอยสลักจารึกในใจว่าเราเป็นของพระองค์ เพราะพระวิญญาณเป็นเสมือนแหวนหมั้นคริสตจักรไว้เพื่อรอคอยองค์เจ้าบ่าว ในวันสมรสของพระเมษโปดกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามพระสัญญา

"เราจะขจัดความมืดที่ปกคลุมแผนการของเราสำหรับชีวิตของเจ้าออกไป” (I'm Removing the Darkness Covering up My Plan for Your Life! )

"เราจะขจัดความมืดที่ปกคลุมแผนการของเราสำหรับชีวิตของเจ้าออกไป” 
(I'm Removing the Darkness Covering up My Plan for Your Life! )
คำเผยพระวจนะของดร.ชัค เพียร์ซ (Chuck Pierce) วันที่ 3/6/2016
"นี่คือช่วงเวลาที่เรากำลังเปิดหัวใจและจิตวิญญาณของเจ้าในรูปแบบใหม่ เราจะขจัดความมืดที่ปรากฏอยู่นี้ เราจะขจัดความมืดที่ปกคลุมแผนการของเราสำหรับชีวิตของเจ้าออกไป เรากำลังจะเข้ามาฉายส่องความสว่างของเราในหัวใจของเจ้าในรูปแบบใหม่ สิ่งที่เจ้าไม่สามารถมองเห็นในฤดูกาลที่ผ่านมา เจ้าจะได้เห็นในฤดูกาลนี้ เราจะเข้ามาในห้วงความคิดของเจ้า เมื่อเจ้ารู้สึกว่าอนาคตของเจ้ามืดมนและหดหู่ใจ เราจะเข้ามาทำลายอำนาจของความเศร้าโศกและการปรับโทษเจ้าและจะทำลายอำนาจของความสิ้นหวังออกจากเจ้า
นี่คือความสุขใหม่ที่กำลังผุดขึ้นมาภายในตัวของเจ้า ความสุขนี้จะผุดขึ้นมาเป็นฟองดังเช่นน้ำพุที่ไหลออกมาและฟองของมันจะทำปฏิกิริยาเปอร์ออกไซด์ (peroxide) เพื่อจะชำระล้างความสงสัย ความไม่เชื่อ และความสิ้นหวังที่ฉุดรั้งเจ้าให้ท้อถอยออกไป

จากถ้อยคำเผยพระวจนะของดร.ชัค เพียร์ซ ผมขออธิษฐานป่าวประกาศดังนี้ 
ขอความสว่างของพระยาห์เวห์ขจัดความมืดที่ปกคลุมแผนการของพระองค์ในชีวิตของเรา  และน้ำพุแห่งชีวิตชำระความผิดหวังและความโศกเศร้าให้ออกไป

“เพราะน้ำ‍พุแห่งชีวิตอยู่กับพระ‍องค์ เราเห็นความสว่างโดยความสว่างของพระ‍องค์”  สดุดี 36:9 

I'm Removing the Darkness Covering up My Plan for Your Life!
“This is a time that I am opening hearts and spirits in a new way. I’m removing the darkness that has been there. I’m removing the darkness that has covered up My plan for your life. I am coming to shine My light in your heart in a new way. What you could not see in the past season, you’re going to see in this season. I am coming! Where you thought your future was bleak and dismal, I’m coming to break the power of gloom and doom off of you, and to break the power of hopelessness off of you. There’s a new joy that is going to spring up on the inside of you.
That joy is going to bubble up like a fountain, and it is going to bubble up just like peroxide bubbles up. This joy is going to bubble up, and it’s going to wash out the doubt, the unbelief, and the hopelessness that has held you back."