30 ตุลาคม 2558

เตรียมพบกับบทความใหม่จากการเดินทางไปอิสราเอล

เนื่องจากผมจะเดินทางไปอิสราเอลในช่วงวันที่ 1-8 พ.ย. ผู้อ่านทุกท่าน
เตรียมพบกับบทความใหม่จากการเดินทางไปอิสราเอลในครั้งนี้ครับ

13 ตุลาคม 2558

เดือนเชสวาน (Cheshvan) เตือนใจให้ระวังเทศกาลและบาปของเยโรโบอัม

เรากำลังที่จะเข้าสู่เดือนที่  8 ตามปฏิทินศาสนา (Ecclesiastical calendar) ของอิสราเอลซึ่งในปี 2015 จะอยู่ในช่วงวันที่ 14 ..-12 ..  
ในเดือนที่ผ่านมาเป็นเดือนทิชรี(Tishri)  เป็นช่วงเวลานัดหมาย(Divine Appointment) ที่จะพักสงบเพื่อพบพระพักตร์ของพระยาห์เวห์เนื่องจากเป็นเดือนแห่งเทศกาลของพระยาห์เวห์ ตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ที่กล่าวไว้ในพระธรรมเลวีนิติ บทที่ 23 เดือนนี้มีเทศกาล ถึง เทศกาล นั่นคือ 
1. เทศกาลเสียงแตรเขาสัตว์(Rosh Hashanah- เริ่มต้นในช่วงเย็นวันที่ 13 .. ที่ผ่านมา ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ ปี 5776  ปีแห่งตัวอักษร Ayin Vav ปีแห่งหลักหมุดเต็นท์ 


ลนต. 23:24 “จง​กล่าว​แก่​คน​อิสราเอล​ว่า ใน​วันที่​หนึ่ง​ของ​เดือน​ที่​เจ็ด(Tishri)  เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​ถือ​เป็น​วันหยุด​พัก​สงบ​วัน​หนึ่ง เป็น​วัน​ประชุม​บริสุทธิ์​ประกาศ​เป็น​ที่​ระลึก​ด้วย​เสียง​แตร​...



2.เทศกาลลบมลทินบาป( Yom Kippur  เริ่มต้นในช่วงเย็นวันที่ 23 ..) 
ลนต. 23:27 “​ใน​วันที่​สิบ​ของ​เดือน​ที่​เจ็ด​(Tishri) นี้​เป็น​วัน​ทำ​การ​ลบ​มลทิน จะ​เป็น​วัน​ประชุม​บริสุทธิ์​แก่​เจ้า และ​เจ้า​จง​บังคับ​ใจ​ตนเอง และ​นำ​เครื่องบูชา​ด้วย​ไฟ​ถวาย​แด่​พระ​เจ้า​


3.เทศกาลอยู่เพิง (Sukkot เริ่มต้นในช่วงเย็นวันที่ 28 ..-4 ..) 
ลนต. 23:34-35 ​34 “จง​กล่าว​แก่​คน​อิสราเอล​ว่า ใน​วันที่​สิบ​ห้า​เดือน​ที่​เจ็ด​(Tishri) นี้ เป็น​วัน​เทศกาล​อยู่​เพิงถวาย​แด่​พระ​เจ้า​สิ้น​เจ็ด​วัน​  35 จะ​มี​การ​ประชุม​บริสุทธิ์​ใน​วัน​แรก เจ้า​อย่า​ทำงาน​หนัก​...

เมื่อเราดำเนินตามวาระเวลาของพระยาห์เวห์ เราจะอยู่ในวงจรเวลาแห่งพระพรที่เราจะมีประสบการณ์ที่สวรรค์บุกรุก(Vav)เข้ามาในชีวิตของเรา

แต่ในเดือนที่ 8 นี้ คือเดือนเชสวาน (Cheshvan) ในช่วงวันที่ 14 ..-12 .. นี้ เป็นเดือนที่สำคัญที่ผมเขียนในบทความนี้คือ เดือนเชสวาน (Cheshvan) เตือนใจให้ระวังเทศกาลและบาปของเยโรโบอัม

(เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเดือนนี้ คือ “เชสวาน”   (Cheshvan) ในภาษาอังกฤษจะเขียนว่า Heshvan เพราะเป็นแปลมาจากภาษากรีกจะใส่ตัว H แทน Ch เพราะภาษาฮีบรูจะออกเป็นเสียง ฆ เพราะสะกดด้วยตัว Chet ח (เฆท)  จะออกเป็น "เฆทวาน"  
คำว่า “เชสวาน”  חֶשְׁוָן,(Cheshvanในภาษาฮีบรู  จะมีคำนำหน้าเป็นคำว่า “มาร์เชสวาน” Marcheshvan  מַרְחֶשְׁוָןแปลว่า ขม (bitter) ทั้งนี้เพราะเป็น"เดือนแห่งความขมขื่นใจ" เพราะที่ไม่มีเทศกาลอะไรเลยเป็นช่วงเวลาแห่งการอดอาหารอธิษฐาน เป็นการระลึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมโลก(ปฐก.7)และระลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธฺ์ยิว (Holocaust)  ปีค.ศ. 1938 ในวันที่ 15 เดือนเชสวาน  ในพระคัมภีร์ชื่อเดิมคือเดือนบูล (Bul) 
1พกษ. 6:38 และ​ใน​ปี​ที่​สิบ​เอ็ด ใน​เดือน​บูล (Bul) ซึ่ง​เป็น​เดือน​ที่​แปด พระ​นิเวศ​นั้น​ก็​สำเร็จ​หมด​ทุก​ส่วน​ตาม​ที่​กำหนด​ไว้​ทุก​อย่าง พระ​องค์​ทรง​สร้าง​พระ​นิเวศ​นั้น​เจ็ด​ปี )

ในวันที่ 15 เดือนเชสวาน  ค.ศ.1938 เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธฺ์ยิว (Holocaust) เริ่มต้นขึ้นและท้ายที่สุดคนยิวถูกฆ่าตายมากกว่า 6 ล้านคน จะกระทั่งพระสัญญาของพระเจ้าเป็นจริง ทำให้พวกเขาได้รับแผ่นดินตามพระสัญญาในปี 1948 และในปี 1967 ช่วง "ปีแห่งอิสรภาพ(Jubilee)" พวกเขาได้ยึดกรุงเยรูซาเล็มกลับคืนมาได้ตามพระสัญญาของพระยาห์เวห์ 

แต่ผมขอเน้นไปในวันที่ 15 เดือนเชสวาน มันมีความหมายที่เตือนใจในฝ่ายวิญญาณให้ระวังเทศกาลและบาปของเยโรโบอัม

เทศกาลของพระยาห์เวห์ VS เทศกาลของเยโรโบอัม

วันที่ 15 เดือนเชสวาน ในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ซึ่งพระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ในหนังสือ 
1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 12 :32-33

32 และ​เย​โร​โบ​อัม​ทรง​กำหนด​เทศกาล​เลี้ยง​ใน​วันที่​สิบ​ห้า​ของ​เดือน​ที่​แปด​(Cheshvan)เหมือนกับ​การ​เลี้ยง​ที่​อยู่​ใน​ยูดาห์ และ​พระ​องค์​ทรง​ถวาย​เครื่อง​สัตว​บูชา​บน​แท่น​บูชา ​พระ​องค์​ทรง​กระทำ​ใน​เบธเอล​ดังนี้​แหละ คือ​ถวาย​เครื่อง​สัตว​บูชา​แก่​รูป​ลูก​วัว​ที่​พระ​องค์​ได้​ทรง​สร้าง​ไว้​นั้น และ​พระ​องค์​ทรง​สถาปนา​ปุโรหิต​ใน​เบธเอลป​ระ​จำ​ที่​ปู​ชนีย​สถาน​สูง ซึ่ง​พระ​องค์​ทรง​สร้าง​ไว้​
33 ​พระ​องค์​ทรง​ขึ้น​ไป​ยัง​แท่น​บูชา ซึ่ง​พระ​องค์​ทรง​สร้าง​ไว้​ที่​เบธเอล​ใน​วันที่​สิบ​ห้า​เดือน​ที่​แปด ใน​เดือน​ซึ่ง​พระ​องค์​ทรง​ดำริ​เอง และ​พระ​องค์​ทรง​กำหนด​เทศกาล​เลี้ยง​สำหรับ​คน​อิสราเอล และ​ทรง​ขึ้น​ไป​ยัง​แท่น​บูชา​เพื่อ​ถวาย​เครื่อง​หอม​

นี่คือการจงใจที่จะทำของเทียมเพื่อเลียนแบบของแท้ ของนายโยเย หรือกษัตริย์เยโรโบอัม ของอิสราเอล(สะมาเรีย)ที่กบฎต่อพระยาห์เวห์

นายโยเย หรือ เยโรโบอัมเป็นใครกันนะ? 

เยโรโบอัมเป็นบุตรเนบัทและนางเศรุวาห์ คนเอฟราอิมชาวเมืองเศเรดาห์ เป็นทแกล้วทหารของ
กษัตริย์ซาโลมอน(พระโอรสของกษัตริย์ดาวิด)  พระเจ้าได้ทรงใช้อาหิยาห์ผู้เผยพระวจนะให้สําแดงแก่เยโรโบอัมว่า เขาเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอลปกครอง 10 เผ่า โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าเยโรโบอัมเชื่อฟังทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชา  ดําเนินในทางของพระองค์ด้วยความเที่ยงธรรมและตามกฎบัญญัติ  พระองค์จะทรงอยู่ด้วยและจะสร้างให้เขาเป็นราชวงศ์ที่มั่นคง แต่ถ้าเขาเป็น"คนโยเย"ไม่ทําตาม เขาจะประสบกับความทุกข์ใจเป็นนิตย์  ดังที่ราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิดประสบ เมื่อกษัตริย์ซาโลมอนทราบข่าวเช่นนั้นก็หาทางฆ่าเยโรโบอัม แต่เยโรโบอัมหลบหลีกไปอยู่อียิปต์ จนกระทั่งซาโลมอนสิ้นพระชนม์ (1 พกษ.11:26-40)

เราทราบกันดีถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาไว้ถึงพันธสัญญาแห่งรักนิรันดร์ที่มีต่อราชวงค์กษัตริย์ดาวิดแต่เมื่อกษัตริย์ซาโลมอนทำบาปและไม่ดำเนินตามสิ่งที่กษัตริย์ดาวิดพระราชบิดาทรงกระทำ พระยาห์เวห์ทรงต้องลงโทษ นั่นคือ ฉีกอาณาจักรอิสราเอล เป็น 2 อาณาจักรคือ ยูดาห์และสะมาเรีย

พระเจ้าตรัสกับกษัตริย์ซาโลมอนว์า  

11 ... “เพราะ​เจ้า​ทำ​เช่น​นี้ และ​เจ้า​ไม่​ได้​รัก​ษา​พันธ​สัญญา​และ​กฎ​เกณฑ์​ของ​เรา ซึ่ง​เรา​ได้​บัญ​ชา​เจ้า เรา​จะ​ฉีก​อา​ณา​จักร​เสีย​จาก​เจ้า​อย่าง​แน่​นอน และ​มอบ​ให้​ข้า​ราช​การ​ของ​เจ้า
12 อย่าง​ไร​ก็​ตาม เพื่อ​เห็น​แก่​ดา​วิด​บิดา​ของ​เจ้า เรา​จะ​ไม่​ทำ​ใน​สมัย​ของ​เจ้า แต่​เรา​จะ​ฉีก​มัน​ออก​จาก​มือ​บุตร​ชาย​ของ​เจ้า

13 อย่าง​ไร​ก็​ดี เรา​จะ​ไม่​ฉีก​อา​ณา​จักร​เสีย​ทั้ง​หมด แต่​เรา​จะ​ให้​เผ่า​หนึ่ง​แก่​บุตร​ชาย​ของ​เจ้า เพื่อ​เห็น​แก่​ดา​วิด​ผู้​รับ​ใช้​ของ​เรา และ​เพื่อ​เห็น​แก่​เย​รู​ซา​เล็ม​ซึ่ง​เรา​ได้​เลือก​ไว้”    (1 พกษ.11:11-13)

หลังจากที่กษัตริย์ซาโลมอนทรงสิ้นพระชนม์ กษัตริย์เรโหโบอัมราชโอรสทรงขึ้นครองราชย์(อาณาจักรฝ่ายใต้ คือ ยูดาห์)  กษัตริย์เรโหโบอัมปกครองด้วยความโหดร้ายข่มเหงประชาชน  (1 พกษ. 12:11) 
อาณาจักรอิสราเอลถูกแยกออกเป็น 2 อาณาจักรหลังจากที่กษัตริย์ซาโลมอนสิ้นพระชนม์  
พระเจ้าทรงยกอาณาจักรฝ่ายเหนือ (อาณาจักรสะมาเรีย) ให้แก่เยโรโบอัม (1 พกษ. 12:19-20) 

เมื่อเยโรโบอัมขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ทรงได้ทําสิ่งที่ชั่ว
ร้ายต่อพระยาห์เวห์ โดยหันเหความเชื่อศรัทธาของชาวอิสราเอลที่มีต่อพระยาห์เวห์ไปหารูปเคารพ  

ตามธรรมเนียมของคนอิสราเอลจะถวายเครื่องสัตวบูชาในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ที่กรุงเยรูซาเล็ม  กษัตริย์เยโรโบอัมเกรงว่าจิตใจของชาวอิสราเอลจะฝักใฝ่และกลับไปสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์เรโหโบอัม 

ดังนั้นพระองค์จึงทรงได้สร้างรูปเคารพ คือ สร้างวัวทองคํา 2 ตัว ที่เมืองเบธเอล 1 ตัว และที่เมืองดาน 1 ตัว (1 พกษ. 12: 28)
เพื่อให้คนมากราบไหว้โคทองคำแทนที่จะต้องเดินทางไกลไปถึงเยรูซาเล็ม
นอกจากนี้พระองค์ทรงทำผิดต่อพระบัญญัติ  นั่นคือทําหน้าที่เป็นปุโรหิตถวายเครื่องบูชาเอง (1 พกษ.12: 32)และทรงแต่งตั้งปุโรหิตจากคนที่ไม่ใช่จากตระกูลเลวี  (1 พกษ.12: 31, 13:33)

สิ่งที่กษัตริย์เยโรโบอัมยังทำบาปอีกประการคือ พระองค์ทรงกําหนดเทศกาลตามใจชอบ (1 พกษ.12: 32)  และ​เย​โร​โบ​อัม​ทรง​กำหนด​เทศกาล​เลี้ยง​ใน​วันที่​สิบ​ห้า​ของ​เดือน​ที่​แปด​(Cheshvan)เหมือนกับ​การ​เลี้ยง​ที่​อยู่​ใน​ยูดาห์ 


นี่คือการตั้งตนเองเป็นพระเจ้าแทนพระยาห์เวห์ โดยต้องการปรับเปลี่ยนวาระเวลาแห่งพระพรมาเป็นของตนเอง แต่นั่นเป็นวงจรที่นำไปสู่การแช่งสาป


ความบาปกษัตริย์เยโรโบอัมที่ได้กระทำ จึงเป็นความบาปที่เรียกว่า "บาปของเยโรโบอัม"และอิทธิพลความบาปนี้นำคำแช่งสาปตกทอดไปสู่ลูกหลานของอิสราเอล  

ลูกหลานกษัตริย์ในอาณาจักรอิสราเอลจึงไม่มีสักคนหนึ่งที่กระทําสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย ทุกคนทําตาม
เยโรโบอัมต้นแบบของกษัตริย์ที่ชั่วร้าย นี่เองจึงเป็นเหตุนําความหายนะ และการทําลายมาถึงราชวงศ์นี้
จนหมดสิ้นแผ่นดิน
แต่พระยาห์เวห์มีพระเมตตาต่อราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงให้มีการรื้อฟื้นความเชื่อในพระยาห์เวห์ และทำลายปูชนีย์สถานที่สร้างเพื่อรูปเคารพ ผ่านทางกษัตริย์โยสิยาห์ในเวลาต่อมา

(เรื่องราวของกษัติย์โยสิยาห์อ่านได้ในบทความเรื่อง "คนรุ่นใหม่หัวใจโยสิยาห์" ) 

พระยาห์เวห์ทรงให้คำเผยพระวจนะล่วงหน้าโดยผู้เผยพระวจนะจากยูดาห์ไปที่เบธเอลเพื่อกล่าวต่อ กษัตริย์เยโรโบอัม
(1พกษ.13:1-3)  2...และ​ชาย​คน​นั้น​ได้​ร้อง​กล่าวโทษ​แท่น​นั้น​โดย​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ว่า “โอ แท่น​บูชา แท่น​บูชา​พระ​เจ้า​ตรัส​ดังนี้​ว่า ‘ดู​เถิด โอรส​องค์​หนึ่ง​จะ​ประสูติ​มา​ใน​ราชวงศ์​ของ​ดาวิด ชื่อ​โย​สิ​ยาห์​และ​บน​เจ้า แท่น​นี้​จะ​ฆ่า​ปุโรหิต​แห่ง​ปู​ชนีย​สถาน​สูง​ผู้​ซึ่ง​เผา​เครื่อง​หอม​บน​เจ้า และ​เขา​จะ​เผา​กระดูก​คน​บน​เจ้า’...

นี่คือข้อคิดให้กับเรา เพื่อเตือนใจเราให้เราเชื่อมต่อกับวงจรเวลาของพระเจ้า เพื่อเราจะไม่ถูกหันเหใจไปในความบาปที่ล่อลวงเราออกจากทางของพระเจ้า

มารซาตานพยายามดึงใจเราให้ไปสนใจกับเทศกาลต่างๆของโลกนี้ เช่น เทศกาลฮาโลวีน หรือเทศกาลเกี่ยวกับดวงจันทร์และบูชาเทพเจ้าต่างๆ
เป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่คริสตชนจำนวนมากไม่สนใจที่จะฉลองเทศกาลที่อยู่ในพระคัมภีร์เช่นเทศกาลปัสกา(Passover) เทศกาล
เพ็นเทคอสต์(Pentecost)  หรือ เทศกาลอยู่เพิง(Sukkot) แต่กลับไปจัดงานฉลองเทศกาลอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในพระคัมภีร์แทน

โดยเฉพาะในเดือนเชสวาน (Cheshvan) ที่กำลังจะมาถึงเพื่อเตือนใจให้ระวังเทศกาลและบาปของเยโรโบอัม

กษัตริย์เยโรโบอัม เป็นเงา(Type) เล็งถึง "ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist)ที่จะมาในภายหลัง ?

ในทางศาสนศาสตร์ นักวิชการพระคัมภีร์หลายท่านให้มุมมองโดยเทียบกับ กษัตริย์เยโรโบอัม ว่าเป็นเงา(Type) เล็งถึง "ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist) โดยเทียบจากหนังสือพระคัมภีร์ที่กล่าวคำพยากรณ์ไว้ถึง "ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist)

 มีข้อสังเกตดังนี้ 
(1) กษัตริย์เยโรโบอัมปกครอง 10 ชนเผ่าตอนเหนือของอิสราเอล  ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ได้ครอบครองราชอาณาจักร 10 อาณาจักร 

วว. 13:1 และ​ข้าพเจ้า​ได้​เห็น​สัตว์​ร้าย​ตัว​หนึ่ง​ขึ้น​มา​จาก​ทะเล มัน​มี​เจ็ด​หัว​และ​สิบ​เขา ที่​เขา​ทั้ง​สิบ​นั้น​มี​มงกุฎ​สิบ​อัน และ​มี​ชื่อ​ที่​เป็น​คำ​หมิ่น​ประมาท​พระ​เจ้า​จารึก​ไว้​ที่​หัว​ของ​มัน

ดนล. 7:24 ส่วน​เรื่อง​เขา​สิบ​เขา​นั้น จาก​ราช​อาณาจักร​นี้​จะ​มี​กษัตริย์​สิบ​พระ​องค์​เกิดขึ้นและ​มี​กษัตริย์​อีก​องค์​หนึ่ง​เกิดขึ้น​ภายหลัง ผิด​แปลก​กว่า​กษัตริย์​ที่​มี​มา​ก่อน​และ​จะ​โค่น​กษัตริย์​เสีย​สาม​องค์

(2) กษัตริย์เยโรโบอัมปกครอง 10 ชนเผ่าตอนเหนือของอิสราเอล  ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ถูกเรียกว่า "กษัตริย์​แห่ง​ถิ่น​เหนือ​" 

ดนล. 11:28 แล้ว​กษัตริย์​แห่ง​ถิ่น​เหนือ​ก็​จะ​กลับ​เข้า​บ้าน​เข้า​เมือง​พร้อม​กับ​ทรัพย์​สมบัติ​มาก​มาย แต่​จิตใจ​ก็​มุ่ง​ร้าย​ต่อ​พันธสัญญา​บริสุทธิ์ และ​เขา​จะ​ปฏิบัติงาน​และ​กลับ​เข้า​บ้าน​เข้า​เมือง​

(3) กษัตริย์เยโรโบถูกเรียกว่า "ผู้​ได้​นำ​อิสราเอล​ให้​ทำ​บาป" (2 กษัตริย์ 23:15.)ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ถูกเรียกว่า "คน​นอก​กฎหมาย"​ (man of lawlessness หรือ Man of Sin)  ( 2 ธส 2: 3).


2พกษ. 23:15 ยิ่ง​กว่า​นั้น​อีก แท่น​บูชา​ที่​เบธเอล​กับ​ ปูชนีย​สถาน​สูง​ซึ่ง​ตั้ง​ขึ้น​โดย​เยโรโบอัม​บุตร​ เนบัท ผู้​ได้​นำ​อิสราเอล​ให้​ทำ​บาป​ด้วย พระ​องค์​ทรง​รื้อ​แท่น​บูชา​กับ​ปูชนีย​สถาน​สูง​นั้น​ลง​และ​ ทรง​เผา​ปูชนีย​สถาน​สูง​นั้น แล้ว​บด​ให้​เป็น​ผง​และ​พระ​องค์​ทรง​เผา​เสา​อาเชราห์​ด้วย



2ธส. 2:3 ​อย่า​ให้​ใคร​ล่อลวง​ท่าน​โดย​ทาง​หนึ่ง​ทาง​ใด​เลย เพราะ​ว่า​วัน​นั้น​จะ​ไม่​มาถึง​จนกว่า​จะ​มี​การ​กบฏ​เสียก่อน และ​คน​นอก​กฎหมาย​นั้น​จะ​ปรากฏ​ตัว คือ​ลูก​แห่ง​ความ​พินาศ

(4) กษัตริย์เยโรโบอัมพยายามเปลี่ยนปฏิทินของพระเจ้าโดยการเพิ่มงานเทศกาลในเดือนที่8   ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงการตั้งเวลาและพระบัญญัติของพระเจ้า 

ดนล. 7:25 ท่าน​จะ​พูด​คำ​กล่าว​ร้าย​องค์​ผู้​สูงสุด และ​จะ​ให้​วิสุทธิ​ชน​ของ​องค์​ผู้​สูงสุด​นั้น​อิด​หนา​ระอา​ใจ และ​จะ​คิด​เปลี่ยนแปลง​บรรดา​วาระ​และธรรม​บัญญัติ​ และ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​ท่าน ตลอด​หนึ่ง​วาระ สอง​วาระ กับ​ครึ่ง​วาระ

(5) กษัตริย์เยโรโบอัมก่อตั้งศาสนาและสร้างระบบของตัวเองขึ้นมาปกครองคน  และนำให้คนกราบไหว้รูปเคารพ   ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ก็จะสถาบันศาสนาของตัวเอง รวมถึงระบบต่างๆและพาคนให้เคารพบูชาของรูปเคารพ 
วว.13:11-18 
 ...12 ​มัน​ใช้​สิทธิอำนาจ​ทั้งหมด​ของ​สัตว์​ร้าย​ตัว​แรก​ต่อ​หน้า​สัตว์​ร้าย​นั้น มัน​ทำ​ให้​โลก​และ​คน​ที่​อยู่​ใน​โลก​บูชา​สัตว์​ร้าย​ตัว​ที่​มี​บาดแผล​ฉกรรจ์​ซึ่ง​ได้รับ​การ​รักษา​แล้ว​
 13 ​มัน​ทำ​หมาย​สำคัญ​ที่​ยิ่งใหญ่​ถึง​ขั้น​ทำ​ให้​ไฟ​ตก​จาก​ฟ้า​ลง​มายัง​แผ่นดิน​โลก​ต่อ​หน้า​คน​ทั้ง​หลาย
 14 ​มัน​ล่อลวง​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​ด้วย​หมาย​สำคัญ​ต่างๆ ที่​ทรง​อนุญาต​ให้​มัน ทำ​ต่อ​หน้า​สัตว์​ร้าย​ตัว​แรก​นั้น และ​มัน​สั่ง​ให้​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก สร้าง​รูป​จำลอง​รูป​หนึ่ง​ให้กับ​สัตว์​ร้าย​ตัว​ที่​มี​บาดแผล​จาก​ดาบ​แต่​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​นั้น
15 ​และ​ทรง​อนุญาต​ให้​มัน​สามารถ​ให้​ลม​หายใจ​แก่​รูป​ของ​สัตว์​ร้าย เพื่อให้​รูป​สัตว์​ร้าย​นั้น​พูด​ได้ และ​ทำ​ให้​พวก​ที่​ไม่​ยอม​บูชา​รูป​สัตว์​ร้าย​นั้น​ถึง​แก่​ความ​ตาย
16 ​และ​มัน​ยัง​บังคับ​ทุก​คน ทั้ง​คน​เล็กน้อย​และ​คน​ใหญ่โต คน​มั่ง​มี​และ​คน​ยากจน เสรี​ชน​และ​ทาส​ให้​รับ​เครื่องหมาย​ไว้​ที่​มือ​ขวา​หรือ​ที่​หน้าผาก​ของ​พวก​เขา
17 ​เพื่อ​ไม่ให้​ใคร​สามารถ​ซื้อ​หรือ​ขาย​ได้ ถ้า​หาก​ไม่​มี​เครื่องหมาย​ที่​เป็น​ชื่อ​ของ​สัตว์​ร้าย หรือ​เป็น​ตัวเลข​ของ​ชื่อ​มัน
18 ​ใน​เรื่อง​นี้​ต้อง​ใช้​สติปัญญา​ให้​ดี ถ้า​ใคร​มี​ความ​เข้าใจ ​ก็​จง​คิด​คำนวณ​เลข​ของ​สัตว์​ร้าย​ตัว​นั้น เพราะ​ว่า​เป็น​เลข​ของ​คน​ผู้​หนึ่ง เลข​ของ​มัน​คือ​หก​ร้อย​หก​สิบ​หก​(666)

(ยังมีข้อพระคัมภีร์อื่นๆที่สนับสนุนแต่ผมไม่ได้ยกมาอ้างอิง เนื่องจากพื้นที่จำกัด แต่พอสรุปได้ว่า กษัตริย์เยโรโบอัมทำในสิ่งที่่เป็นแนวทางเดี่ยวกับที่"ปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist) จะทำในอนาคต  สิ่งเป็นข้อคิดเตือนใจเราให้ระมัดระวังในอนาคตหากถึงเวลาที่ปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist) ได้ปรากฏตัวขึ้น )

ผมไม่ได้สรุปนะครับ ว่าในวันที่ 15 เดือนเชสวาน ( วันที่ 28 ต.ค. 2015) ที่กำลังจะถึงนี้ จะมีพิธีกรรมหรือสิ่งเลวร้ายที่มารพยายามจะทำให้เกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นการเริ่มต้นของการเกิด "ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist)  แต่ให้เราเฝ้าอธิษฐานเผื่ออิสราเอลและระมัดระวังชีวิตของเราไว้เสมอไม่ให้เราหลงไปกับเทศกาลและบาปของเยโรโบอัมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 

ในวันที่ 15 ของเดือนเชสวานในประวัติศาสตร์ มีเหตุการณ์ร้ายเกี่ยวกับอิสราเอล เช่น เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธฺ์ยิว (Holocaust)  ปีค.ศ. 1938 เริ่มต้นในวันที่ 15 เดือนเชสวาน โดยฮิตเลอร์ของพรรคนาซี


มัทธิวหรือมัทธิยาฮู (Mattityahu -แปลว่าของขวัญแด่พระเจ้า) ซึ่งเป็นผู้ประท้วงและต่อต้านการที่ทำให้พระวิหารเป็นมลทิน  ท่านได้เสียชีวิตในวันที่ 15 เดือนเชสวาน ปี 3622  หรือ 139 ปีก่อนคริสตศักราช ) และต่อมา ตระกูลมัคคาบีส (The Maccabees) โดยบุตรชาย 5 คนของเขามีชัยชนะเหนือกองทัพของกษัตริย์แอนติโคคัสที่ 4(Antiochus IV) แห่งซีเรียเมื่อประมาณ 165 ปี ก่อนคริสตศักราช จึงมีการ เฉลิมฉลองเทศกาลแห่งแสงสว่าง (Chanukah หรือ Hanukkah) ในแต่ละปี


(สามารถอ่านทำความเข้าใจ เรื่อง เทศกาลแห่งแสงสว่าง หรือ Chanukah หรือ Hanukkah ได้ในบทความเรื่อง เทศกาลแสงสว่างแห่งความหวังใจ)

สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ แม้ว่าเดือนนี้จะมีเหตุการณ์ร้ายในอดีต และสำหรับในเดือนนี้เราจะต้องป่าวประกาศชัยชนะของพระยาห์เวห์ เพราะผู้ที่อยู่ในชีวิตของเรา ยิ่งใหญ่กว่ามารซาตานที่อยู่ในโลกนี้(1ยน.4:4)

หากเราศึกษาพระคัมภีร์จะเห็นได้ว่า สุดท้ายพระยาห์เวห์ทรงลงโทษและทำลายกษัตริย์เยโรโบอัมที่ทำบาปอย่างสิ้นเชิง และวาระสุดท้ายในอนาคต "ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist) ก็จะถูกจัดการเช่นเดียวกัน

ในพระธรรม 1 พกษ.13:1-5  บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ว่า พระยาห์เวห์ส่งให้ผู้เผยพระวจนะจากยูดาห์ไปกล่าวโทษกษัตริย์เยโรโบอัม ว่าโยสิยาห์จะมาทำลายสิ่งที่กษัตริย์เยโรโบอัมได้สร้าง และเมื่อกษัตริย์เยโรโบอัมกางมือออก มือของพระองค์เหี่ยวแห้งไป  และสิ่งที่กษัตริย์เยโรโบอัมได้ทำบาปและราชวงศ์ของพระองค์ถูกทำลายเสียสิ้นในเวลาต่อมา 
1 พกษ.21:20-22 
20 อาหับ​ตรัส​กับ​เอลียาห์​ว่า “โอ ศัตรู​ของ​เรา เจ้า​พบ​เรา​เข้า​แล้ว​หรือ?” ท่าน​ทูล​ตอบ​ว่า “ข้า​พระ​บาท​พบ​ฝ่า​พระ​บาท​เข้า​แล้ว เพราะ​ว่า​ฝ่า​พระ​บาท​ยอม​ขาย​พระ​องค์​เข้า​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ใน​สาย​พระ​เนตร​พระ​ยาห์เวห์

21 นี่แน่ะ เรา​จะ​นำ​เหตุ​ร้าย​มา​เหนือ​เจ้า เรา​จะ​กวาด​เจ้า​ออก​ไป​เสีย​ให้​สิ้น และ​จะ​กำจัด​ผู้​ชาย​ทุก​คน​เสีย​จาก​อาหับ​ใน​อิสราเอล ไม่​ว่า​ทาส​หรือ​ไท

22 และ​เรา​จะ​ทำ​ให้​ราช​วงศ์​ของ​เจ้า​เหมือน​ราช​วงศ์​ของ​เยโรโบอัม​บุตร​เนบัท และ​เหมือน​ราช​วงศ์​ของ​บาอาชา​บุตร​อาหิยาห์ เพราะ​เจ้า​ทำ​ให้​เรา​โกรธ และ​เพราะ​เจ้า​ทำ​ให้​อิสราเอล​ทำ​บาป​ด้วย



"ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์"(The Antichrist) ก็จะถูกจัดการเช่นเดียวกัน ตามพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้



ดนล. 7:11 ข้าพเจ้า​ก็​จ้อง​ดู เพราะ​เขา​เล็ก​นั้น​พูด​คำ​ใหญ่โต และ​เมื่อ​ข้าพเจ้า​จ้อง​ดู​สัตว์​ตัว​นั้น​ก็​ถูก​ฆ่า และ​ศพ​ก็​ถูก​ทำลาย​มอบ​ให้​เผา​เสีย​ด้วย​ไฟ​



2ธส. 2:8 ขณะนั้น​คน​นอก​กฎหมาย​(The Antichrist) นั้น​ก็​จะ​ปรากฏ​ตัว​ขึ้น และ​พระ​เยซู​เจ้า​จะ​ทรง​ประหาร​มัน​ด้วย​ลม​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​องค์ และ​จะ​ทรง​ผลาญ​ให้​สูญ​ไป​ด้วย​การ​ปรากฏ​และ​การ​เสด็จ​มา​ของ​พระ​องค์​



เดือนนี้ให้เราอธิษฐานป่าวประกาศดังนี้ 



     อธิษฐานป่าวประกาศว่า เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความยินดีแทนการขมขื่นใจ ไม่ใช่ เดือนที่ชื่อว่า “มาร์เชสวาน” Marcheshvan  מַרְחֶשְׁוָןแปลว่า ขม (bitter เพราะเดือนนี้คือเดือนเป็นเชสวาน (Cheshvan) เดือนแห่งเผ่ามนัสเสห์ พระเจ้าทรงทำให้โยเซฟลืมความยากลำบากและความทุกข์ยาก   ดังความหมายของชื่อเผ่ามนัสเสห์ (ปฐก 41:51)   

     อธิษฐานป่าวประกาศว่า เดือนนี้เป็นเดือนแห่งพันธสัญญานิรันดร์ของพระเมสิยาห์(Messiahอธิษฐานป่าวประกาศ   ตามพันธสัญญาของพระเมสิยาห์ พระองค์เป็นผู้เริ่มต้นการดีและทรงนำความสำเร็จ(ฟป.1:6)   
     
     อธิษฐานป่าวประกาศว่า เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความกล้าหาญ  เดือนนี้เป็นเดือนของกิเดนโอน ชาวเผ่ามนัสเสห์ พระเจ้าทรงเรียก กิเดโอนว่า “บุรุษผู้กล้าหาญ” (วนฉ.6:14-15)  เรียกตัวเราว่า ฉันเป็นนักรบของพระเจ้า(ยอล.3:10)  ขอพระเยซูทรงเหยียบหัวงู(ซาตาน) และเราสามารถทำและจะต้องทำอย่างเดียวกับพระองค์ (รม 16.20)  เราจะขึ้นไปเหยียบแผนของศัตรู  สามารถมีชัยชนะเหนืออุบายทั้งสิ้นของผีร้ายได้ด้วยการให้อภัย 

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

07 ตุลาคม 2558

พระเยซู ผู้​เป็น​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิตในเทศกาลอยู่เพิง

สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน เชื่อว่าในช่วงเทศกาลอยู่เพิงหรือสุคคท(Sukkot) ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.-4 ต.ค.2015 ที่ผ่านมา  เราจะมีประสบการณ์อยู่ภายใต้เพิงแห่งพระสิริ เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความยินดีในการสามัคคีธรรมกับพระเจ้าและพี่น้องในพระคริสต์ 

ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับเทศกาลอยู่เพิงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้อ่านทุกท่านสามารถกลับไปอ่านย้อนหลังได้นะครับ ตาม Link นี้ครับ



สำหรับในปี 5776 นี้ ผมขอเขียนในมุมมองและข้อคิดจากเทศกาลอยู่เพิงที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8 ซึ่งเป็นวันที่คนยิวอยู่ในเพิงมาแล้ว 7 วันและวันที่ 8 คือวันที่เรียกว่า  "ชิมหัต โทราห์" (Simchat Torah)  เป็นวันแห่งการชื่นชมยินดีในพระคำ(Torah)ของพระยาห์เวห์  คนยิวจำนวนมากเต้นรำด้วยถือหนังสือม้วนโทราห์ อ่านตั้งแต่ปฐมกาลข้อแรก และข้อสุดท้ายของเฉลยธรรมบัญญัติ เพื่อแสดงว่าพระวจนะของพระเจ้าไม่มีวันสิ้นสุด 
มีการนมัสการอย่างชื่นชมยินดีธรรมศาลา(Synagogue)
ในพระธรรมยอห์นบทที่ 7 ได้บันทึกว่า พระเยซูคริสต์ทรงมาร่วมเทศกาลอยู่เพิง

ยน. 7:37-39 ​ 
37 ใน​วัน​สุดท้าย​ของ​งาน​เทศกาล​(วันที่ 8 Simchat Torah) ซึ่ง​เป็น​วัน​ยิ่งใหญ่​นั้น ​พระ​เยซู​ทรง​ยืน​ขึ้น​และ​ทรง​ประกาศ​ว่า “ถ้า​ใคร​กระหาย ให้​คน​นั้น​มา​หา​เรา
38 ​และ​ให้​คน​ที่​วางใจ​ใน​เรา​ดื่ม ตาม​ที่​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘แม่น้ำ​ที่​มี​น้ำ​ดำรง​ชีวิต​จะ​ไหล​ออกมา​จาก​ภาย​ใน​คน​นั้น’​​”
39 ​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​นั้น​หมายถึง​พระ​วิญญาณ​ซึ่ง​คน​ที่​วางใจ​พระ​องค์​จะ​ได้รับ เพราะ​ว่า​พระ​วิญญาณ​ยัง​ไม่​สถิต​ด้วย​ เพราะ​พระ​เยซู​ยัง​ไม่ได้​รับ​พระ​เกียรติ


ในช่วงเทศกาลอยู่เพิงมีพิธีเทน้ำ(Beit She'ubah)  โดยทุกเช้าของเทศกาลอยู่เพิง ปุโรหิตซึ่งได้รับการแต่งตั้งไว้โดยเฉพาะจะนำเหยือกทองคำมาที่สระสิโลอัม เพื่อตักน้ำกลับไปยังพระวิหาร โดยจะเดินเข้าทางประตูน้ำ และขณะที่ประชาชนกำลังร้องเพลงสรรเสริญจากพระธรรมสดุดี ปุโรหิตจะค่อย ๆ เทน้ำลงในกรวยรดฐานของแท่นบูชา แล้วไหลลงกลับสู่ดิน  สิ่งนี้เป็นภาพเงาที่เล็งถึงอนาคตข้างหน้าที่พระองค์จะเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาเหนืออิสราเอลและผู้เชื่อทุกคนจากทุกชาติทุกภาษา ซึ่งอยู่ภายใต้การครอบครองของพระเมสสิยาห์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำเร็จตามคำเผยพระวจนะในพระธรรมกิจการฯบทที่ 2

นอกจากนี้ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ ได้กล่าวไว้ใน ยรม. 17:13 ข้าแต่พระเจ้า ความหวังแห่งอิสราเอล บรรดาคนเหล่านั้นที่ละทิ้งพระองค์จะต้องรับความอับอาย บรรดาคนทั้งปวงที่หันไปจากพระองค์จะต้องจารึกไว้ในแผ่นดินโลก เพราะเขาได้ละทิ้งพระเจ้าผู้เป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิตเสีย

ซึ่งเป็นการเผยพระวจนะล่วงหน้าไว้ประมาณ  550 ปี  ก่อนที่พระเยซูคริสต์ทรงมาประสูติบนโลกนี้  คำเผยพระวจนะนี้กล่าวถึง พระเยซูว่าพระองค์ทรงเป็นน้ำพุแห่งชีวิต เป็นทั้งความหวังและเป็นช่วยให้รอด ที่คนยิวได้ละทิ้งไปนั่นเอง พระเยซูจะเข้ามาเติมเต็มให้พวกเขาไม่หิวกระหายอีกต่อไปเมื่อได้พบกลับพระองค์ และพระเยซูคริสต์จะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นน้ำที่ธำรงชีวิตให้กับพวกเขา 

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเหตุการณ์สำคัญในเทศกาลอยู่เพิงในสมัยพระเยซูคริสต์นั้นคือ  พระเยซู ผู้​เป็น​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิต พระวิญญาณของพระองค์ไม่ได้ประหารคนให้ตายแต่ประทานชีวิตรอด

คร. 3:6 ผู้ทรงโปรดประทานให้เราสามารถที่จะเป็นพันธกรแห่งพันธสัญญาใหม่ อัมิใช่ประมวลกฎแต่เป็นมาโดยพระวิญญาณ ด้วยว่าประมวลกฎนั้นประหารให้ตาย แต่ส่วนพระวิญญาณประทานชีวิต

เมื่อเราได้อ่านต่อไปในพระธรรมยอห์นบทที่ 8:1-11 จะพบกับเหตุการณ์ "คดีเด็ด" ที่ต้องการเผด็จศึกหญิงที่ทำผิดล่วงประเวณี แต่พระเยซูคริสต์ทรงตัดสินคดีด้วยหัวใจ จากคดีเด็ดกลายเป็น "คดีสีชมพู" ด้วยหัวใจแห่งการอภัยของพระเยซู

ในพระธรรมยอห์น บทที่ 8 ข้อที่ 3 -6 บันทึกว่า 

3 พวก​ธรรมาจารย์​และ​พวก​ฟาริสี​พา​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​มา​หา หญิง​คน​นี้​ถูก​จับ​ฐาน​ล่วง​ประเวณี และ​พวก​เขา​ให้​นาง​ยืน​อยู่​ต่อ​หน้า​ประชาชน
4 เขา​ทูล​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​อาจารย์ หญิง​คน​นี้​ถูก​จับ​ขณะ​กำลัง​ล่วง​ประเวณี​อยู่
5 ​ใน​ธรรม​บัญญัติ​นั้น​โมเสส​สั่ง​ให้​เรา​เอา​หิน​ขว้าง​คน​อย่าง​นี้​ให้​ตาย​​ แล้ว​ท่าน​จะ​ว่า​อย่างไร?”
6 เขาพูดอย่างนี้เพื่อทดลองพระองค์โดยหวังจะหาเหตุฟ้องพระองค์ แต่พระเยซูน้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดิน

พวก​ธรรมาจารย์​และ​พวก​ฟาริสีจับหญิงที่ล่วงประเวณี มาพร้อมกับใช้เธอเป็นอุปกรณ์เพื่อจะมาทดลองพระเยซู  พวกเขาเรียกพระองค์ว่าเป็น "ท่าน​อาจารย์(รับบี) " ประมาณว่าท่านทราบไหมว่าพระบัญญัติของพระเจ้าผ่่านทางโมเสสบอกว่าอะไร และต้องลงโทษหญิงคนนี้อย่างไร พระเยซูคริสต์ทรงทราบดีถึงพระบัญญัติของพระเจ้า โทษตามกฏคือต้องประหารเธอให้ตาย! 

ตามพระบัญญัตินั้นมี "กฎเรื่องความหึงหวงของสามี"(กดว.5:11-31) หากสามีระแวงให้พาภรรยาไปหาปุโรหิตและปุโรหิตจะวินิจฉัย หากเธอผิดประเวณีจริงก็ให้เอาหินขว้างมีการให้ดื่มน้ำสาบาน  

กดว. 5:27 เมื่อให้หญิงนั้นดื่มน้ำแล้ว ถ้านางทำตัวเป็นมลทินและประพฤตินอกใจสามี น้ำที่ทำให้เกิดการสาปแช่งนั้นจะเข้าในตัวนางและทำให้เจ็บปวดมาก ท้องของนางจะป่องและมดลูกจะลีบไป และนางจะเป็นที่แช่งสาปท่ามกลางชนชาติของนาง
ผู้ที่เป็นปุโรหิตจะบันทึกเรื่องราวคดีความไว้ในสมุดแห่งพระวิหาร  ผู้ที่จะเอาหินขว้างคนแรกแสดงว่า เป็นสามีหรือชู้ของนาง เพราะสามีเท่านั้นที่มีสิทธิฟ้องเอาเรื่องได้ตามพระบัญญัติ  

สายตาประชาชนที่มาที่ลานประตูเมือง มาเฝ้าดูคดีนี้อย่างใจจดใจจ่อว่า คดีนี้จะสิ้นสุดอย่างไร และในเทศกาลอยู่เพิง ช่วงวัน"ชิมหัต โทราห์" รับบีเยซูจะทำอย่างไรกับคดีนี้

เพราะถ้าพระเยซูเพิกเฉยต่อพระบัญญัติ ปล่อยหญิงที่ล่วงประเวณี คนจะดูหมิ่นพระองค์และพระบัญญัติของพระเจ้า แต่ถ้าพระองค์ทำตามพวกเขาคือ ประหารหญิงที่ล่วงประเวณีคนนี้ พระองค์ก็จะทำผิดต่อพระบิดาซึ่งเปี่ยมด้วยพระคุณและความรัก 

แต่ในข้อ 8-11 จะเห็นถึงพระสติปัญญาของพระเยซูในการแก้ไขคดีด้วยหัวใจแห่งการอภัยและพระคุณที่ไม่ละเลยพระบัญญัติ พระเยซูไม่ได้ลบล้างพระบัญญัติแต่ทำให้ครบถ้วนด้วยพระคุณ

7 และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก
8 แล้วพระองค์น้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดินอีก
9 แต่เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
10 พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด? ไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?”
11 นางทูลว่า ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลยแล้วพระเยซูตรัสว่า เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก


มีนักวิชาการพระคัมภีร์หลายท่านตีความ ว่า พระเยซูคริสต์เขียนอะไรที่พื้นดิน บ้างก็ว่าเขียนพระบัญญัติจากพระธรรมกันดารวิถีบทที่ 5 หรือพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติบทที่ 17  ผมคงไม่ได้สรุปว่าพระองค์เขียนพระบัญญัติตอนนี้ แต่ผมเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงทราบดีถึงพระบัญญัติข้อนี้ดี  พระธรรมยอห์นไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าพระองค์เขียนที่ดินว่าอะไร แต่พระองค์ทรงใช้พระบัญญัติของพระเจ้าในการตัดสินคดีนี้


(ผมขอสรุปความจากพระบัญญัติของพระเจ้าจาก กดว.5:11-31 และ ฉธบ. 17:5-7 ดังนี้)

กดว.5:11-31 
...12 “จง​บอก​คน​อิสราเอล​ว่า ถ้า​ภรรยา​ของ​ชาย​คน​ไหน​หลง​ผิด​และ​ประพฤติ​นอกใจ​สามี
13 ​มี​ชาย​อื่น​มา​นอน​กับ​นาง​ใน​ที่​ลับ​ตา​สามี​ของ​นาง นาง​ก็​มี​มลทิน​แล้ว​แม้​ถูก​ปิดบัง​ไว้ และ​แม้​ไม่​มี​พยาน ทั้ง​จับ​ไม่ได้​คา​หนัง​คา​เขา
14 ​จิต​หึง​หวง​ก็​มา​อยู่​ใน​ตัว​สามี เขา​จึง​หึง​หวง​ภรรยา​ผู้​มี​มลทิน​นั้น หรือ​ว่า​มี​จิต​หึง​หวง​อยู่​ใน​สามี เขา​จึง​หึง​15 ​ให้​ชาย​นั้น​พา​ภรรยา​ของ​เขา​ไป​หา​ปุโรหิต และ​นำ​เครื่องบูชา​สำหรับ​ภรรยา​ไป​ด้วย คือ​แป้ง​บาร์เลย์​ประมาณ​หนึ่ง​กิโลกรัม แต่​ไม่ให้​เขา​เท​น้ำ​มัน​หรือ​ใส่​กำยาน​ใน​แป้ง​นั้น เพราะ​เป็น​ธัญ​บูชา​เกี่ยวกับ​ความ​หึง​หวง เป็น​ธัญ​บูชา​แห่ง​การ​ระลึก​คือ​ให้​ระลึก​ถึง​ความ​ผิด
16 “ปุโรหิต​จะ​นำ​นาง​มา​ใกล้​และ​ให้​ยืน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์เวห์
17 ​และ​ปุโรหิต​จะ​เอา​น้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ใส่​ใน​ภาชนะ​ดิน แล้ว​เอา​ผง​คลี​จาก​พื้น​พลับพลา​ใส่​ใน​น้ำ​นั้น
18 ​ปุโรหิต​จะ​ให้​นาง​ยืน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์เวห์ และ​แก้​มวย​ผม​ของ​นาง​ออก แล้ว​ส่ง​ธัญ​บูชา​แห่ง​การ​ระลึก​ให้​นาง​ถือ​ไว้ ซึ่ง​เป็น​ธัญ​บูชา​แห่ง​ความ​หึง​หวง ส่วน​ปุโรหิต​จะ​ถือ​น้ำ​แห่ง​ความ​ขม​ขื่น​ที่​ทำ​ให้​เกิด​การ​สาปแช่ง​นั้น​ไว้
19 ​จาก​นั้น​ปุโรหิต​จะ​ให้​นาง​สาบาน​และ​พูด​กับ​นาง​ว่า ‘ถ้า​ไม่​มี​ชาย​ใด​มา​นอน​กับ​เจ้า หรือ​ถ้า​เจ้า​ไม่ได้​หลง​ผิด​ไป​มี​มลทิน เมื่อ​เจ้า​ยัง​อยู่​กิน​กับ​สามี ​ก็​ให้​เจ้า​พ้น​จาก​น้ำ​แห่ง​ความ​ขม​ขื่น​ที่​ทำ​ให้​เกิด​การ​สาปแช่ง​นี้
20 ​แต่​ถ้า​เจ้า​หลง​ผิด​ใน​ขณะที่​เจ้า​อยู่​กิน​กับ​สามี​แล้ว​มี​มลทิน โดย​ชาย​อื่น​ที่​ไม่ใช่​สามี​ได้​นอน​กับ​เจ้า
21 ​(​และ​ให้​ปุโรหิต​บอก​หญิง​นั้น​กล่าว​คำ​สาบาน​ของ​การ​สาปแช่ง ทั้ง​บอก​กับ​หญิง​นั้น​ว่า​) ขอ​พระ​ยาห์เวห์ท​รง​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​คำ​แช่ง และ​คำ​สาป​ท่ามกลาง​ชน​ชาติ​ของ​เจ้า โดย​การ​ที่​พระ​องค์​ทรง​ทำ​ให้​มดลูก​ของ​เจ้า​ลีบ และ​ท้อง​เจ้า​ป่อง...
27 ​เมื่อ​ให้​หญิง​นั้น​ดื่ม​น้ำ​แล้ว ถ้า​นาง​ทำ​ตัว​เป็น​มลทิน​และ​ประพฤติ​นอกใจ​สามี น้ำ​ที่​ทำ​ให้​เกิด​การ​สาปแช่ง​นั้น​จะ​เข้า​ใน​ตัว​นาง​และ​ทำ​ให้​เจ็บปวด​มาก ท้อง​ของ​นาง​จะ​ป่อง​และ​มดลูก​จะ​ลีบ​ไป และ​นาง​จะ​เป็น​ที่​แช่ง​สาป​ท่ามกลาง​ชน​ชาติ​ของ​นาง
28 ​ถ้า​หญิง​นั้น​ไม่ได้​มี​มลทิน​และ​นาง​บริสุทธิ์ นาง​ก็​จะ​พ้น​ความ​ผิด​และ​ตั้งครรภ์
29 “นี่​เป็น​กฎ​เรื่อง​ความ​หึง​หวง เมื่อ​ภรรยา​ได้​หลง​ไป​ทำ​ตัว​ให้​มี​มลทิน​ทั้ง​ที่​ยัง​อยู่​กิน​กับ​สามี
30 ​หรือ​เมื่อ​มี​จิต​หึง​หวง​อยู่​ใน​ผู้ชาย และ​เขา​หึง​หวง​ภรรยา​ของ​ตน เขา​ต้อง​ให้​นาง​ไป​ยืน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์เวห์ และ​ปุโรหิต​จะ​ปฏิบัติ​ต่อ​นาง​ตาม​บัญญัติ​นี้​ทุก​ประการ
31 ​ผู้ชาย​จึง​จะ​พ้น​ผิด ส่วน​ผู้หญิง​จะต้อง​รับ​ความ​ผิด​ของ​นาง”

ฉธบ. 17:5-7
ท่านจงนำชายหรือหญิง ผู้ทำสิ่งชั่วร้ายนั้นออกมาที่ประตูเมือง และท่านจงเอาหินขว้างชายหรือหญิงนั้นเสียให้ตาย
ผู้ที่ถูกกล่าวโทษถึงตายนั้น ให้มีพยานสองหรือสามปาก จึงให้ปรับโทษถึงตายได้ ห้ามลงโทษใครถึงตายด้วยพยานปากเดียว
นการประหารชีวิตนั้น ให้พวกพยานลงมือก่อน ต่อไปคนทั้งปวงจึงร่วมมือด้วย แล้วท่านจะกำจัดความชั่วเสียจากท่ามกลางท่าน

คำถามที่สำคัญของพระเยซูคริสต์คือ  ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก”(ยน.8:7) ผลคือ เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์(ยน.8:9)

ในเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในบริเวณพระวิหาร พระเยซูเอานิ้วเขียนที่ดินในเขตพระวิหาร สิ่งที่พระเยซูทรงเขียนคือ  ชื่อคน คดีความ โจทย์และจำเลย ตามพระบัญญัติการเอาความต้องมีพยาน 2 ปาก ( ฉธบ. 17:6 ผู้ที่ถูกกล่าวโทษถึงตายนั้น ให้มีพยานสองหรือสามปาก จึงให้ปรับโทษถึงตายได้ ห้ามลงโทษใครถึงตายด้วยพยานปากเดียว )
แต่เมื่อเหลือพระเยซูกับหญิงล่วงประเวณีเพียง 2 คน มีแต่จำเลย ไม่มีโจทย์ มีแต่พระเยซูคริสต์ที่เป็นพยานในเวลานั้น  พยานปากเดียวเอาโทษไม่ได้  

ยน.8:10-11
10 พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมดไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?”
11 นางทูลว่า ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลย” แล้วพระเยซูตรัสว่า เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก

เมื่อพระเยซูตรัสกับหญิงคนนั้นว่า เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก
พระเยซูคริสต์ทรงให้อภัยเธอ แต่สิ่งที่พระองค์กำชับคือ "
อย่าทำบาปอีก” 

ดังนั้นพระบัญญัติของพระเจ้าที่ให้กับเราเพื่อให้เราได้ทราบถึงความร้ายแรงของบาป  เมื่อเราทั้งหลายได้รับการให้อภัยโดยพระคุณ เราควรที่จะกลับใจใหม่และอย่ากลับไปทำบาปอีก เป็นการดูหมิ่นพระคุณที่เราได้รับจากพระเจ้า 

รม. 6:14-15 
14 ​บาป​จะ​ไม่​ครอบงำ​พวก​ท่าน​ต่อไป เพราะ​ว่า​ท่าน​ไม่​อยู่​ใต้ธรรม​บัญญัติ แต่​อยู่​ใต้​พระ​คุณ
15 ถ้า​เช่นนั้น​จะ​ว่า​อย่างไร? เรา​จะ​ทำ​บาป​เพราะ​ไม่​อยู่​ใต้ธรรม​บัญญัติ แต่​อยู่​ใต้​พระ​คุณ​อย่าง​นั้น​หรือ? เปล่า​เลย

สิ่งที่พระเยซูเขียนที่ดินอาจจะเป็นประเด็นถกเถียงต่อไปในทางศาสนศาสตร์  แต่สิ่งที่เป็นความจริงคือ  
พระเยซูคริสต์ทรงเป็นความหวังและ​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิตในเทศกาลอยู่เพิง

ยรม. 17:13 ข้าแต่พระเจ้า ความหวังแห่งอิสราเอล บรรดาคนเหล่านั้นที่ละทิ้งพระองค์จะต้องรับความอับอาย บรรดาคนทั้งปวงที่หันไปจากพระองค์จะต้องจารึกไว้ในแผ่นดินโลก เพราะเขาได้ละทิ้งพระเจ้าผู้เป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิตเสีย

ในเทศกาลอยู่เพิงนั้น  ​พระ​เยซู​ทรง​ยืน​ขึ้น​และ​ทรง​ประกาศ​ว่า “ถ้า​ใคร​กระหาย ให้​คน​นั้น​มา​หา​เรา
​และ​ให้​คน​ที่​วางใจ​ใน​เรา​ดื่ม ตาม​ที่​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘แม่น้ำ​ที่​มี​น้ำ​ดำรง​ชีวิต​จะ​ไหล​ออกมา​จาก​ภาย​ใน​คน​นั้น’​​”  สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​นั้น​หมายถึง​พระ​วิญญาณ​ซึ่ง​คน​ที่​วางใจ​พระ​องค์​จะ​ได้รับ 

ในเทศกาลอยู่เพิงที่เราได้ฉลองกันอยู่ในทุกปีนั้น แสดงถึงพระเยซู ผู้​เป็น​แหล่ง​น้ำ​แห่ง​ชีวิต ที่อยู่ในชีวิตของเรา ขอให้เรามีประสบการณ์ในเพิงแห่งพระสิริในชีวิตของเรา เอเมน