บทความในครั้งนี้ ผมขอนำเสนอมุมมมองใหม่ในเรื่องการบัพติศมาในน้ำ จากการศึกษาพระคัมภีร์ในตอนที่พระเยซูคริสต์ ทรงรับพิธีบัพติศมาในน้ำจากยอห์น ผู้ให้บัพติศมา ณ แม่น้ำจอร์แดน
มัทธิว 3:13-17 แล้วพระเยซูเสด็จจากแคว้นกาลิลี มาหายอห์นที่แม่น้ำจอร์แดนเพื่อทรงรับบัพติศมาจากท่าน แต่ยอห์นทูลห้ามพระองค์ว่า “ข้าพระองค์ต้องการจะรับบัพติศมาจากพระองค์ ควรหรือที่พระองค์จะเสด็จมาหาข้าพระองค์?” แต่พระเยซูตรัสตอบยอห์นว่า “บัดนี้จงยอมเถิด เพราะสมควรที่พวกเราจะทำความชอบธรรมให้ครบถ้วนทุกประการ” แล้วยอห์นก็ยอม เมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ และนี่แน่ะ มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก”
เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงอายุได้ 30 ปี พระองค์ทรงมาหายอห์น ผู้ให้บัพติศมา ท่านเป็นเตรียมทางของการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ ตามถ้อยคำของ อิสยาห์ 40:3 ... “จงเตรียมมรรคาของพระยาห์เวห์ในถิ่นทุรกันดาร จงทำทางหลวงในที่ราบแห้งแล้งให้ตรงสำหรับพระเจ้าของเรา
ยอห์นมาเพื่อประกาศให้คนกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในน้ำเพื่อจะเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้า(มัทธิว 3:1-12) ในฐานะความเป็นญาติสนิทระหว่างยอห์นและพระเยซูคริสต์ (ยอห์นเป็นบุตรของเอลีซาเบธ ญาติของนางมารีย์ แม่ของพระเยซู) ครั้งนี้ยอห์นทราบดีว่าพระเยซูคริสต์ไม่ใช่แค่แวะมาหาท่านในฐานะญาติ แต่มาตามแผนการของพระบิดา และงานของยอห์นในการเตรียมาทางก็สำเร็จแล้ว แม้ว่ายอห์นจะปฏิเสธเพราะการให้บัพติศมานั้นเพื่อผู้คนที่กลับใจจากบาป
แต่พระเยซูไม่มีบาป แต่พระเยซูทรงยืนยันที่จะรับบัพติศมา ทรงตรัสว่า “บัดนี้จงยอมเถิด เพราะสมควรที่พวกเราจะทำความชอบธรรมให้ครบถ้วนทุกประการ” (มธ. 3:15) แล้วยอห์นก็ยอมทำพิธีบัพติศมาในน้ำให้กับพระองค์
การบัพติศมาใน้ำของพระเยซูไม่ใช่สัญลักษณ์ของการกลับใจจากบาป เป็นพิธีการล้างชำระ (doctrine of baptisms) ฮีบรู 6:2 และคำสอนเรื่องพิธีล้างชำระต่างๆ การวางมือ การเป็นขึ้นจากความตาย และการลงโทษชั่วนิรันดร์)
การรับบัพติศมาในน้ำแบบนี้จึงเป็นการบัพติศมา : ท่วมท้นในความรัก รู้จักอัตลักษณ์ความเป็นลูกเมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ และนี่แน่ะ มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก” (มธ. 3:1ุ6-17)
สิ่งที่น่าอัศรรย์ใจในเหตุการณ์ครั้งนี้คือ การยืนยันด้วยถ้อยคำแห่งความรัก(love affirmation) พระบิดาทรงตรัสกับพระบุตรว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก”
สิ่งนี้เป็นคำกล่าวอวยพรของผู้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดที่มอบให้กับลูก (สดุดี 2:7 “เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราให้กำเนิดเจ้าแล้ว) สิ่งนี้เป็นการส่งผลต่อเป้าประสงค์ลิขิต(Destiny) สำหรับผู้ที่เป็นลูกที่จะผงาดขึ้นในความเป็นลูกเพื่อจะไปตามงานที่บิดามอบหมาย นี่คือจุดเริ่มต้นการรับใช้ของพระเยซูคริสต์ในฐานะของพระบุตรที่มาในโลกเพื่อสำแดงความรักของพระบิดา ก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมา คนที่จะรอดเข้าแผ่นดินสวรรค์ คือการบัพติศมาแบบยอห์น บัพติศมา แต่สำหรับพระเยซูคริสต์ พระองค์มาเพื่อบัพติศมาด้วยพระวิญญาณและด้วยไฟ (มัทธิว 3:11 ข้าพเจ้าให้ท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริง แต่พระองค์ผู้จะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ)
การบัพติศมาในน้ำไม่ได้ทำให้รอด เราทั้งหลายรอดแล้วเมื่อเราเชื่อในพระราชกิจแห่งการไถ่ของพระเยซูคริสต์ การบัพติศมาในน้ำ เป็นสัญลักษณ์ถึง การเข้าสนิทในพระกายร่วมพระเยซูคริสต์ คือ การฝังตัวเก่าของเราลงไปในน้ำและการโผล่ขึ้นจากน้ำเป็นการประกาศชัยชนะเหนือความตายเช่นเดียวกับที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ที่ทรงก้าวออกมาจากอุโมงค์ฝังศพด้วยชัยชนะ
โรม 6:1-5 ...3 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า เราผู้ที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบัพติศมานั้นเข้าในการตายของพระองค์? 4 เพราะฉะนั้น เราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์แล้ว โดยการรับบัพติศมาเข้าในการตายนั้น เพื่อว่าเมื่อพระบิดาทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นมาจากตายโดยพระสิริของพระองค์แล้ว เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยเหมือนกัน 5 เพราะว่าถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในการตายอย่างพระองค์ เราก็จะเข้าสนิทกับพระองค์ในการเป็นขึ้นจากตายอย่างพระองค์
1 เปโตร 3:21 บัดนี้น้ำนั้นที่เล็งถึงพิธีบัพติศมาก็ช่วยพวกท่านให้รอดเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เป็นการชำระมลทินทางกาย แต่เป็นการวิงวอนพระเจ้าเพื่อจะมีมโนธรรมที่ดี ความรอดนั้นมาโดยทางการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์
สิ่งนี้เป็นความรักที่ท่วมท้นเหมือนการจุ่มให้มิด คำว่า บัพติศมา มาจากภาษากรีกคำว่า ฺBaptizo-βαπτίζω เป็นไวยากรณ์ แบบ Future Perfect Continuous Tense คือการดำเนินอย่างต่อเนื่องกันมาตั้งแต่อดีต และยังดำเนินต่อเนื่องไปถึงปัจจุบัน และในอนาคต หมายถึงการบัพติศมานี้ส่งผลต่อเนืื่องนิรันดร์
เข้าใจง่ายๆ คือ การรับเป็นลูกก็เป็นลูกตลอดไป
โรม. 8:15 เพราะว่าพระวิญญาณที่พระเจ้าประทานมานั้นจะไม่ทรงให้ท่านเป็นทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่พระวิญญาณจะทรงให้ท่านมีฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า โดยพระวิญญาณนั้นเราจึงร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา (พ่อ)”
สำหรับความคิดส่วนตัวของผมแล้ว ผู้ที่รับบัพติศมาในน้ำครั้งเดียวก็เพียงพอ แต่หากมีคนที่ขอรับบัพติศมาใหม่อีกได้ไหม ผมคิดว่า รับได้ไม่ได้บาปอะไร หรือเมื่อก่อนนั้นรับบัพติศมาแบบพรมน้ำไม่ได้จ่มให้มิด ก็รับใหม่เถอะครับ ถ้าสิ่งนั้นเป็นการทำให้ความเชื่อของเขามั่นคงมากขึ้นก็ทำไปเถอะครับ สิ่งเหล่านี่เกิดขึ้นในพระคัมภีร์ เช่นกรณีของอปอลโล (กจ.18) หรือแม้แต่อัครทูตเปาโล (กจ.22:16 ท่านมารับบัพติศมาในน้ำ) ประเด็นนี้ขอไม่มาถกเถียงกันว่าถูกหรือผิด
แต่ประเด็นที่ขอนำเสนอต่อไปคือ ท่วมท้นในความรัก การไปสู่กระบวนการชำระต่อเนื่องจนกว่าจะสมบูรณ์(Entire Sanctification)
ไม่มีใครอาบน้ำเพียงครั้งเดียวจบ การที่เราเคยเป็นบุตรน้อยหลงหายหลงจากพระบิดาและกลับใจกลับมาหาพระเจ้า ดังเช่น อุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหาย(ลูกาบทที่ 15)
(ผมเคยเขียน บทความเรื่อง "หัวใจพระบิดา : "บุตรน้อยหลงหาย กับบุตรชายหลงผิด" เข้าไปอ่านได้ )
เมื่อเรากลับมาจากการหลงหายไปในโลกที่เต็มด้วยความบาปเปรียบเสมือนอยู่ในกองขยะ ผู้ที่เป็นพ่อก็จะต้องจับลูกอาบน้ำ ขัดสีฉวัีวรรณ แต่งตัวให้ใหม่ สมกับเป็นลูกของจอมราชา เราเป็นดั่งเจ้าชายและเจ้าหญิงของพระเจ้า เช่นเดียวกันเราก็ยังอยู่ในโลกนี้ ที่เต็มด้วยความบาปจึงต้องรับการชำระทุกๆวันจากพระเจ้า
ภาพของตอนที่พระเยซูคริสต์รับบัพติศมา มีนกพิราบมาประทับที่พระองค์ นกพิราบเป็นภาพของความถ่อมสุภาพ นกพิราบไม่บินไปไหน เพราะพระเยซูคริสต์ทรงอ่อนสุภาพ เช่นเดียวกับพระวิญญาณที่อยู่ในเราเมื่อเราเข้าสนิทในพระกายร่วมกับพระเยซูคริสต์ เราจึงไม่ควรทำบาปให้พระวิญญาณเสียพระทัย เพราะท่านได้รับการประทับตราไว้ด้วยการไถ่จากบาปเป็นของพระบิดาแล้ว
เอเฟซัส 4:30 และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย ด้วยพระวิญญาณนั้นท่านได้รับการประทับตราไว้สำหรับวันที่จะได้รับการไถ่
คำว่า "การชำระ" ภาษากรีกใช้คำว่า Hagiazo ἁγιασμός เป็นการรับการชำระจากพระเจ้าด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยพระวจนะ(เทียบได้กับน้ำ) ทุกๆวันต่อเนื่อง
คำว่า ”baptizo” ซึ่งหมายถึง “จุ่มลงแล้วนำขึ้นอย่างเร็ว” แต่การแช่ตัว (soaking) ยอมให้ความรักไหลล้นค่อยๆท่วมจนมิดอย่างต่อเนื่องเพื่อการชำระล้างและน้ำที่แช่ไหลซึมผ่าน
ภาพของท่วมท้นในความรักของพระบิดา เป็นภาพของการแช่อิ่ม(Soaking) เช่นเดียวกับผลไม้ที่ยอมให้น้ำเชื่อมไหลซึมผ่านเข้าไปในเนื้อผลไม้ที่แช่ (osmosis)
ดังนั้นขอหนุนใจให้เราได้มีประสบการณ์กับพระบิดาในการรับบัพติศมาหัวใจของเราใหม่ทุกๆวัน ให้ท่วมท้นในความรัก เพื่อเรียนรู้รักความรักของพระบิดาที่เข้ามาเยียวยาให้หายจากความบาดเจ็บ ประสบการณ์ในอดีตที่เลวร้าย หักล้างคำโกหกของศัตรูด้วยความจริงเพื่อเราจะเป็นไท
เรียนรู้จักอัตลักษณ์ความเป็นลูก ถึงเวลาแห่งการผงาดขึ้นในความเป็นลูก เพื่อไปสู่เป้าประสงค์ของพระบิดา ตามที่พระเยซูคริสต์ทรงมอบแผนการ พระมหาบัญชาที่ให้เราในฐานะผู้เชื่อได้กระทำตามพระบัญชา
มัทธิว 28:18-20
18 พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “สิทธิอำนาจทั้งหมดในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว
19 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
20 และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”
เรียนรู้จักอัตลักษณ์ความเป็นลูก ถึงเวลาแห่งการผงาดขึ้นในความเป็นลูก เพื่อไปสู่เป้าประสงค์ของพระบิดา ตามที่พระเยซูคริสต์ทรงมอบแผนการ พระมหาบัญชาที่ให้เราในฐานะผู้เชื่อได้กระทำตามพระบัญชา
มัทธิว 28:18-20
18 พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “สิทธิอำนาจทั้งหมดในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว
19 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
20 และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”