21 ธันวาคม 2560

แรงกระทำและแรงต้าน (Equal and Opposite Reaction)

บทความเรื่อง "แรงกระทำและแรงต้าน" (Equal and Opposite Reaction) 
โดย อาเชอร์ อินเทรเตอร์(Asher Intrater)
เรามักจะประสบกับการต่อต้าน และแรงเสียดทานฝ่ายวิญญาณ ในขณะที่เราพยายามที่จะรับใช้พระเจ้า
ในสัปดาห์นี้ ขณะที่เราอธิษฐานร่วมกันในกลุ่ม อธิษฐานนานาชาติ International Zoom Call กับกลุ่ม Global Gathering และเดวิด เดเมียน (David Demian) ผมได้ข้อสังเกตกฎฝ่ายวิญญาณหนึ่งคือ: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์เริ่มตระหนักว่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในธรรมชาตินั้นไม่ได้เกิดโดยความบังเอิญหรืออุบัติเหตุ ทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมมีสาเหตุ กฎแห่งเหตุและผลนั้น คือ พื้นฐานของวิทยาศาสตร์
ในทำนองเดียวกัน เราเข้าใจว่าพระเจ้าทรงกำหนดกฎของเหตุและผล ให้แก่โลกฝ่ายวิญญาณเช่นเดียวกับโลกฝ่ายธรรมชาติ นี่คือ กฎแห่ง "ความบาปและความตาย" - บาปเป็นเหตุให้เกิดความตาย และมีกฎที่ตรงข้ามกันคือ "กฎแห่งพระวิญญาณและชีวิต" - พระวิญญาณของพระเจ้าให้ชีวิต (โรม 8:2)
เยชูวาห์ได้ให้ "กุญแจ" แก่เราในการผูกมัด กล่าวห้าม สั่งให้เป็นโมฆะสิ่งใดบนโลก สิ่งนั้นก็จะถูกผูกมัด หรือกล่าวห้ามในสวรรค์ สิ่งใดที่เรากล่าวอนุญาต หรือสั่งให้เปิดออกบนโลก สิ่งนั้นก็จะเกิดขึ้นในสวรรค์ด้วย สิ่งใดที่เรา "หว่าน" เราก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น (กาลาเทีย 6:7) เมื่อเราให้สิ่งใด เราก็จะได้รับสิ่งนั้น (ลูกา 6:38)
หลักฟิสิกส์กฎที่3 ของนิวตัน คือ ทุก "การกระทำ" จะต้องมี "ผลของการกระทำ" "แรงกระทำ และ แรงต่อต้าน" นี่ทำให้ผมได้เข้าใจในความเหมือนกันของมิติฝ่ายวิญญาณ คือ เมื่อเราต่อต้านความชั่วร้ายและความมืดมิด มักจะมีผลของแรงกระทำและแรงต้านทานต่อต้านเรา ดังนั้นการเจริญเติบโตขึ้นในฝ่ายวิญญาณ     จะมาพร้อมกับแรงต้านในฝ่ายวิญญาณด้วย
ในทางที่อาจดูไม่คุ้นชิน ทั้งแรงผลักและแรงต้าน แรงต้านนั้นกลับช่วยให้เราเข้าใจว่าความจริงคืออะไร ในขณะที่เยชูวาห์ถูกตรึงที่กางเขน ทหารโรมันได้เยาะเย้ยพระองค์ว่า "ขอสรรเสริญ แด่กษัตริย์ของชาวยิว" การตอบสนองเช่นนี้ช่างเป็นแรงกระทำในทิศทางที่ตรงกันข้าม (ยอห์น 19:3)
เยชูวาห์ได้สอนเราว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นเหมือนกับหญิงที่กำลังจะคลอดบุตร มีอาการเจ็บปวดทรมาน และแรงบีบตัวที่ในครรถ์ กระทั่งกล้ามเนื้อส่วนนั้นได้บีบเค้นและผลักดันทารกออกมา และเมื่อทารกได้ถือกำเนิดมา ความเจ็บปวดยากลำบาก ได้ถูกลืมจนหมดสิ้น (ยอห์น 16:21) การข่มเหงในยุคสุดท้ายก็เหมือนการปวดครรภ์พร้อมคลอดบุตรในการมาถึงของแผ่นดินของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก
เยชูวาห์ได้สอนเราให้"รู้" ถึงหมายสำคัญของเวลาที่จะเกิดขึ้น (มัทธิว 16:3) ลมจากทางตะวันตก ที่มีทะเลจะพัดพาฝนมา ลมจากทางทิศใต้ทางที่มีทะเลทราย จะนำเอาอากาศร้อนแห้งแล้งมา มันก็เหมือนกันเหตุและผลในสภาพทางลมฟ้าอากาศ ดังนั้นควรหรือไม่ที่เราจะวินิจฉัยว่าอิทธิพลทางฝ่ายวิญญาณและศีลธรรมอันไหนจะก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆรอบๆ ตัวเรา
เหตุการณ์ทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และแม้แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แผ่นดินไหวล้วนมีเหตุปัจจัยมาจากการงานฝ่ายวิญญาณที่อยู่เบื้องหลัง (มัทธิว 24:7,29 วิวรณ์ 8:2-5) ให้เราตระหนักรู้ว่าการต่อต้านฝ่ายวิญญาณจะเกิดขึ้นในทุกครั้งที่เราตัดสินใจจะทำ "สิ่งดี" ให้เราตื่นตัว กระตือรือร้นมากขึ้นในการอธิษฐานและกระทำกิจพยากรณ์ เพื่อขยายอาณาจักรของพระเจ้าด้วยแสงสว่างและความรักแก่โลกใบนี้
ขอบคุณบทความจาก https://www.reviveisrael.org/

19 ธันวาคม 2560

Love Match "เลือกคนที่เหมาะเพราะเป็นคู่ที่ใช่"

สิ้นสุดการรอคอย เตรียมพับกบ แฮ่! พบกับ e book เล่มใหม่ของครอบครัวนัฟทาลี
e book  Love Match "เลือกคนที่เหมาะเพราะเป็นคู่ที่ใช่ "

โปรโมชั่นพิเศษ ! ราคา 390 บาท ลดเหลือเพียง 250 บาท
ซื้อ 2 เล่ม (บ้านในฝัน+Love Match) จาก 780 ลดเหลือเหลือ 390

เพื่อนๆที่เคยซื้อ e book บ้านในฝัน สวรรค์เดินได้ ส่งเมล์มาที่ heavenfamily777@gmail.com เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลด 100 บาทเหลือเพียง 150 บาท














วิธีการสั่งซื้อ 
1. inbox เข้ามาในเพจเล่าเรื่องครอบครัว
https://www.facebook.com/Naphtali5777/
2. สั่งซื้อผ่าน Line@ : @family777 หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40wpi1491h

18 ธันวาคม 2560

ทรัมพ์ยอมรับกรุงเยรูซาเล็ม(Trump’s Recognition of Jerusalem)



ทรัมพ์ยอมรับกรุงเยรูซาเล็ม(Trump’s Recognition of Jerusalem) 
โดย รอน แคนเทอร์(Ron Cantor)
เมื่อวันพุธที่ผ่าน (6 ธ.ค.) มาประธานาธิบดีทรัมพ์ได้ยอมรับสิ่งที่เป็นความจริงมานับทศวรรษ นั่นคือกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เขาได้ประกาศเจตจำนงที่จะยกเลิกการชะลอวาระตามสิทธิประธานาธิบดีซึ่งมีการผัดผ่อนมาหลายสิบปี คือที่จะย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเล็ม โดยวาระดังกล่าว สภาคองเกรสได้ลงมติยอมรับอย่างท่วมท้นในปี1995
ปฏิกิริยาของคนในโลกมีหลากหลายทั้งตื่นเต้น ผิดหวัง และโกรธเกรี้ยว บ้างก็อ้างว่านี่เป็นไปตามคำพยากรณ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็ว่านี่คือหายนะ และนี่เป็น 7 ประเด็นที่จะช่วยให้เราคิดและอธิษฐาน

1. อิสราเอลประกาศไว้ในปี 1950ว่ากรุงเยรูซาเล็มคือเมืองหลวง ทว่าตั้งแต่วันนั้นมีเพียงแค่สองประเทศที่ตกลงยอมรับความจริงข้อนี้ และภายหลังก็ได้ย้ายสถานทูตของตนกลับไปยังกรุงเทลอาวีฟ ลองนึกดูว่า ถ้าทุกประเทศในโลกปฏิเสธที่จะรับกรุงวอชิงตันดีซีเป็นเมืองหลวงของสหรัฐฯ หรือกรุงปักกิ่งของจีน หรือกรุงปารีสของฝรั่งเศส สิ่งนี้จะกลายเป็นเรื่อง“ปกติ”หรือไม่หากร้องขอให้ประเทศเหล่านั้นปฏิบัติงาน ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว แต่นี่คือสิ่งที่โลกร้องขอให้อิสราเอลทำ

2. กลุ่มฮามาสและกลุ่มก่อการร้ายต่างๆกล่าวว่าการกระทำของทรัมพ์เกี่ยวกับเยรูซาเล็มเป็น “สิ่งเลวร้าย” พวกเขาเรียกร้องให้มีการลุกฮือขึ้นของชาวปาเลสไตน์อีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่พูดถึงการใช้อาวุธเคมีของนายอัสซาด หรือโจร ISIS ที่ฆ่ากรรมชาวมุสลิมและคริสเตียน 500,000 คนในซีเรีย แล้วยังผู้ลี้ภัยจำนวน 10 ล้านคน การข่มเหงสตรีในโลกอาหรับ ฯลฯ ยังมี“สิ่งเลวร้าย”ที่แท้จริงในตะวันออกกลางให้โกรธเกรี้ยว ทว่าเรื่องนี้ (การยอมรับเยรูซาเลม) ไม่ควรรวมเป็นประเด็นหนึ่งในนั้นเลย

3. พระเจ้าพยากรณ์ (หรือรู้ล่วงหน้า) มาหลายพันปีแล้วว่ากรุงเยรูซาเล็มจะเป็นเมืองที่มีความขัดแย้ง มากที่สุดในโลก สดุดีบทที่2 กล่าวว่าประชาชาติต่อสู้พระเจ้า แต่คำตอบของพระองค์คือ “เราเองได้ตั้งกษัตริย์ของเราไว้แล้วบนศิโยน ภูเขาบริสุทธิ์ของเรา” เศคาริยาห์12:2-3 กล่าวว่ากรุงเยรูซาเล็มในยุคสุดท้ายจะเป็น“ถ้วยน้ำเมาและหินหนัก”ต่อชนชาติที่รายล้อม “เขาจะบาดเจ็บเพราะตนเอง”เนื่องจากลุกขึ้นต่อสู้ กรุงเยรูซาเล็มและพระเจ้าของอิสราเอล

4. จากกระแสความเกรี้ยวกราดดูเหมือนว่าผู้คนลืมไปว่าตลอดประวัติศาสตร์ กรุงเยรูซาเล็มแทบไม่มีความสำคัญเลยต่อโลกมุสลิมอาหรับ ที่นี่ไม่เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศใดในโลกอาหรับ ความร้อนรนแบบ จอมปลอมนี้เพิ่งเกิดขึ้นไปทั่วโลกมุสลิมเมื่อชาวยิวเริ่มกลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม อาณาจักรมุสลิมออตโตมานปล่อยให้เมืองรกร้างอย่างสิ้นเชิงตลอดเวลา400ปีที่ครองกรุงเยรูซาเล็ม

5. ในทางกลับกันพระเจ้าได้เลือกกรุงเยรูซาเล็มไว้เป็นที่สถานที่สำหรับสร้างที่ประทับของพระองค์ และที่นี่ยังเป็นเมืองหลวงชนชาติยิวทั้งสิ้นตั้งแต่สมัยกษัตริย์ดาวิดซึ่งเป็นเวลายาวนานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว กรุงเยรูซาเล็ม (หรือศิโยน) ถูกกล่าวถึงราว 1,000 ครั้งในพระคัมภีร์เดิมแต่ไม่พบเลยสักครั้งในคัมภีร์อัลกุรฺอาน

6. สภาพภูมิศาสตร์ในพระกิตติคุณได้บรรยายถึงจุดสำคัญทั่วอิสราเอล และกล่าวถึงเหตุการณ์ช่วงสุดท้ายของชีวิตพระเยซูไม่ว่าจะเป็นการสิ้นพระชนม์ การฟื้นคืนชีพ และกำเนิดของคริสตจักรยุคแรกล้วนแต่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม นบีมูฮัมหมัดไม่เคยแวะมาที่เยรูซาเลม มีเพียงการกล่าวถึงอย่างลอยๆว่าครั้งหนึ่งเวลากลางคืนท่านเคยมาเยือนมัสยิดอัคซาในความฝัน ซึ่งชาวมุสลิมอ้างว่าคือกรุงเยรูซาเล็ม (อัล-อิสรออ์ 17:1)

Ron Cantor

7. ผู้นำของโลก(ส่วนมากจากพวกฝั่งซ้าย)กลัวว่าถ้อยแถลงของสหรัฐฯจะทำลายกระบวนการสันติภาพอย่างใหญ่หลวง กระบวนการสันติภาพอะไรหรือ ในเมื่อชาวปาเลสไตน์กำลังสร้างรัฐบาลร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายฮามาส พวกเขาจะไม่ยอมรับอิสราเอลว่าเป็นเมืองของยิว ทั้งยังสอนลูกหลานให้เกลียดยิวอีกด้วย และยังตั้งชื่อลานเมือง ถนน และโรงเรียนตามชื่อกลุ่มก่อการร้ายที่ทำลายผู้หญิงและเด็กชาวยิวที่บริสุทธิ์ คุณไม่สามารถทำลายสิ่งที่ไม่มีตัวตนได้
 ตลอดเวลาร่วม70 ปีที่ประเทศต่างๆในโลกเชื่อว่าการไม่ยอมรับว่า กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลจะสามารถนำไปสู่สันติภาพ แต่ไม่เลย! เหมือนอย่างที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้กล่าวว่า หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่แตกต่างคุณก็ต้องลองทำสิ่งใหม่ ต้องขอยกย่องทรัมพ์ที่มีความกล้าหาญที่จะเชื่อว่าการยอมรับความจริงเรื่องกรุงเยรูซาเล็มคือเมืองหลวงของชาวอิสราเอลจะเป็นกุญแจนำสันติภาพมายังอิสราเอลและปาเลสไตน์ ขอให้เราอธิษฐานว่าสิ่งนี้จะเป็นจริง และเพื่อเราจะเห็นชาวยิวและมุสลิมกลับมาหาพระเยซูมากขึ้นและมากขึ้น

บทความจาก REVIVE ISRAEL

06 ธันวาคม 2560

มหาปุโรหิตทางความเชื่อ(High Priest of Our Faith)

 มหาปุโรหิตทางความเชื่อ โดย อาเชอร์ อินเทรเตอร์ ( Asher  Intrater)
คุณทราบไหม คำว่า “พันธกิจ” ในภาษาฮีบรู นั้นใช้คำว่าอะไร? มันไม่มีคำๆนี้เลย! วิธีหนึ่งในการอธิบายคือแค่คำว่“ปรนนิบัติ – Serve” ไม่มีใคร “มีพันธกิจ” คุณก็เพียงแค่ปรนนิบัติ
อีกวิธีหนึ่ง คือคำเดียวกับคำว่า “ปุโรหิต” “priest” – โคเฮน Kohen- כוהן เมื่อใครบางคนเข้ารับใช้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล 
เราจะใช้คำว่าเค้าโคเฮน kahen และคำว่า โคเฮน Cohen ก็ไม่ใช่นามสกุลของอาโรน แต่เป็นตำแหน่งที่เขาได้รับในการปรนนิบัติพระเจ้า ใครก็ตามที่ปรนนิบัติ ก็ถือเป็นการโคเฮน “cohen”     ไม่ได้จำเป็นว่าเขาต้องมาจากครอบครัวโคเฮน Cohen ที่เป็นปุโรหิตด้วย
ฮีบรู 3:1 - จงนึกถึงอัครทูตและมหาปุโรหิตผู้ซึ่งเราเชื่อและรับนั้น คือพระเยซู
เมื่อเราพูดถึง ลำดับของปุโรหิต งานพันธกิจหรือการเป็นอัครทูต ขอให้เราจดจำไว้ว่าเราทุกคนเป็นแค่ผู้ปรนนิบัติของมหาปุโรหิต“หนึ่งเดียว” (THE High Priest) และอัครทูต“หนึ่งเดียว” (THE Apostle) ก็คือ: เยชูวาห์ พระเมสสิยาห์ พระองค์ทรงเป็นศูนย์กลาง เป็นผู้นำ ผู้รับ(ผู้มี)การเจิม และผู้ได้รับการยกย่องเทิดทูน ดังนั้นเมื่อเราพูดว่าเราปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า เราต้องไม่เย่อหยิ่ง ไม่เอาความคิดเห็นตนเองเป็นใหญ่หรือจ้องที่จะรับคำสรรเสริญจากมนุษย์
ยอห์น 6:14 - “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะนั้นที่ทรงกำหนดให้มาในโลก”
เยชูวาห์ไม่ได้เป็นเพียงอัครทูต“หนึ่งเดียว” (THE Apostle) เท่านั้น ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะ“หนึ่งเดียว” ด้วย (THE Prophet)
ลูกา 4:18 พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่ผู้ยากไร้
เยชูวาห์ทรงเป็นผู้ประกาศ“หนึ่งเดียว” (THE Evangelist)
ยอห์น 10:11 เราเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดี
เยชูวาห์ทรงเป็นศิษยาภิบาล“หนึ่งเดียว” (THE Pastor)
ยอห์น 3:2 เรารู้อยู่ว่าท่านเป็นครูผู้มาจากพระเจ้า
ทรงเป็นอาจารย์ “หนึ่งเดียว” (THE Teacher)
สำหรับพวกเราเมสสิยานิคยิว เยชูวาห์ทรงเป็นรับบี “หนึ่งเดียว” (THE Rabbi) เช่นกัน:
มัทธิว 23:8 - ด้วยท่านมีพระอาจารย์แต่ผู้เดียว และท่านทั้งหลายเป็นพี่น้องกันทั้งหมด
เป็นที่ยอมรับว่าการระบุคำนำหน้าชื่อ/ตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ เพื่อช่วยให้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของเขาได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น ปุโรหิต และรับบี อัครทูต ผู้เผย ผู้ประกาศ ศิษยาภิบาล และอาจารย์ อย่างไรก็ตามเราทั้งหลายล้วนเป็นภาพสะท้อนถึงรับบีผู้ยิ่งใหญ่ (THE great Rabbi) ผู้เป็นปุโรหิต และอัครทูต“หนึ่งเดียว” นั้น
ของประทานแห่งการปรนนิบัติรับใช้ทั้งสิ้นล้วนมาจากพระเจ้าผ่านเยชูวาห์  เมื่อเราพูดเกี่ยวกับการปรนนิบัติรับใช้ด้านต่างๆ ก็ควรมีความอ่อนน้อม ถ่อมตัวอยู่เสมอ อาจเป็นได้ที่เรามีของประทานการเผยพระวจนะ เยี่ยมเลย! แต่จำไว้ว่า ทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้ (1โครินธ์ 14:31) อีกทั้งเด็กเล็กๆ ทั้งชายและหญิงก็เผยได้เช่นกัน (กิจการ 2:17)
เราทุกคนเป็น “พี่น้องกัน” เราคือครอบครัว ทุกคนต่างก็ปรนนิบัติรับใช้แตกต่างกันไป สมาชิกในครอบครัวต่างก็มีของประทานที่ต่างกัน บางคนอยู่ในตำแหน่งผู้นำ แต่สำหรับพระบิดาในสวรรค์ เราทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นบุตรที่รักของพระองค์เท่าเทียมเหมือนกันหมด แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวต่างๆของเรานั้นก็สำคัญกว่าคำว่า “พันธกิจ”
 ขอบคุณข้อมูลจาก https://reviveisrael.org/

05 ธันวาคม 2560

รวบรวมบทความเนื่องใน "วันพ่อ"

ภูมิใจที่ได้เกิดในรัชสมัยของในหลวงรัชการลที่ ๙ 

ดีใจที่ได้เป็นลูกของพ่อเฉลิม ประทับที่ได้เป็นพ่อคนและขอบคุณพระบิดาในสวรรค์


ความเป็นมาของวันพ่อแห่งชาติ

http://pattamarot.blogspot.com/2010/12/blog-post.html


ทำเนียบพ่อต้นแบบ

 http://pattamarot.blogspot.com/2010/12/blog-post_03.html


บทความเรื่อง ศรัทธา http://pattamarot.blogspot.com/2010/12/blog-post_21.html


สายธารแห่งน้ำพระทัยของพ่อหลวง
http://pattamarot.blogspot.com/2011/12/blog-post_09.html


เรียกพระบิดาว่า พ่อจ๋าhttp://pattamarot.blogspot.com/2012/11/blog-post.html



พ่อ...คือแดดอุ่นในวันหนาว
พ่อ...คือเมฆขาวบนผืนฟ้าใส
พ่อ...คือริ้วคลื่นโถมซบทราย
พ่อ...คือร่มไม้บนทางฝัน
พ่อ...คือสายลมเย็นในวันร้อน
พ่อ...คือบทกลอนปลุกปลอบขวัญ
พ่อ...คือความงดงามของคืนวัน
พ่อ...คือความภาคภูมิใจของฉันทั้งชีวิต...


ขอมี "พ่อ" อยู่ด้วยก็ "พอ"ใจแล้ว 

02 ธันวาคม 2560

LoveMatch เลือกคนที่เหมาะเพราะเป็นคู่ที่ใช่

เตรียมพบกับ E book เล่มใหม่ สำหรับคนที่มีความรัก
#LoveMatch เลือกคนที่เหมาะเพราะเป็นคู่ที่ใช่
พบกันเดือนธันวาคมนี้ ราคาพิเศษ จาก 390 บาท เหลือเพียง 250 บาท
พิเศษ package ครอบครัว ซื้อร่วมกับ e book "บ้านในฝันสวรรค์เดินได้" จากราคา 500 บาท เหลือเพียง 390 บาทเท่านั้น
พิเศษสำหรับเพื่อนๆผู้อ่านที่เคยสั่งซื้อ e book "บ้านในฝันสวรรค์เดินได้" ได้สิทธิพิเศษส่วนลด 100 บาท เหลือเพียง 150 บาทเท่านั้น
ส่งเมล์มาได้ที่ heavenfamily777@gmail.com