You'll never walk alone. I am your friend who always listens to, and walks along with you.
11 ตุลาคม 2553
ยุทธภัณฑ์ป้องกันมาร (Spiritual Armor Against the Devil)
(ลงข่าวคริสตชน 11 ต.ค.2010)
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ฟังคำสอนของอ.นิมิต เรื่อง "ยุทธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณ"ซึ่งเป็นคำสอนของ Glory of Zion เป็นบทเรียนที่ดีมากและอ.นิมิตก็อธิบายได้อย่างดีมาก หนุนใจว่าไปสั่งซื้อ VCD มาเปิดฟังจะดีมาก++ครับ
ผมได้กลับไปศึกษาเพิ่มเติมจากบทเรียนที่เคยทำไว้ และนำมาแบ่งปันในอีกแง่มุมหนึ่งครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่านครับ
การดำเนินชีวิตในฝ่ายวิญญาณเป็นสิ่งที่เราคริสตชนต้องตระหนักและระมัดระวังชีวิตในฝ่ายวิญญาณของเราเสมอ เพราะว่าศัตรูของเราคือมาร ดุจสิงห์คำราม คอยซุ้มโจมตีเราเสมอ (1เปโตร 5:8)หากเราไม่ระวังตัว
ดังนั้นเพื่อความปลดภัยในชีวิตฝ่ายวิญญาณต้องสวมยุทธภัณฑ์ให้ครบชุด เอเฟซัส บทที่ 6:10-17
10 สุดท้ายนี้ขอท่านจงมีกำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในฤทธิ์เดชอันมหันต์ของพระองค์
11 จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้
12 เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ
13 เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้น และเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้
14 เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก
15 และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า
16 และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย
17 จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า
พระธรรมตอนนี้ อัครทูตเปาโล กล่าวถึงการเตรียมรับมือกับมารซาตานในสงครามฝ่ายวิญญาณ โดยให้ผู้เชื่อดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง รับกำลังที่มาจากพระเจ้า และสวมยุทธภัณฑ์ให้พร้อม เพื่อจะมีชัยชนะในสงครามฝ่ายวิญญาณ ยุทธภัณฑ์ทั้ง 6 ชิ้น ในการป้องกันมารซาตาน มีดังนี้
1. ความจริง (ข้อ 14ก) (The belt of truth)
พระวจนะกล่าวว่า “เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอว...”
พระวจนะเปรียบความจริงเป็นเข็มขัดที่คาดเอวเพื่อทำให้ชุดออกรบมีความกระชับและพร้อมสำหรับการต่อสู้เสมอ อันเป็นการสะท้อนความหมายว่า ให้เรายึดความจริงแห่งข่าวประเสริฐและความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าไว้ โดยไม่ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกนำหน้าในการดำเนินชีวิต เพื่อเราจะพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นคง
ซุนวู ผู้เขียนตำราพิชัยยุทธ์ ศิลปะแห่งสงครามให้ข้อคิดว่า
“จงเตรียมพร้อมเมื่อข้าศึกมีกำลังสมบูรณ์หลีกเลี่ยงเมื่อข้าศึกเข้มแข็งแกร่งกล้าอยู่ เย้าเมื่อศัตรูตกอยู่ในโทสะจริต พึงถ่อมตัวพินอบพิเทาเสริมให้ศัตรูโอหังได้ใจ ต้องรังควาญให้เหน็ดเหนื่อยระอา ในเมื่อศัตรูพักผ่อนเพื่อออมกำลังยุรำตำรั่ว ให้ปรปักษ์แตกแยกความสามัคคีกันพึงหักเอาในขณะที่เขาไม่ได้เตรียมพร้อม เข้าจู่โจมยามที่เขาไม่ได้คาดฝัน แล้วจะได้ชัยมา”
ในการรบของสงครามฝ่ายวิญญาณก็เช่นเดียวกัน คริสตชนต้องรู้กาลเวลา ในการทำการรบ "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะทั้งร้อยครั้ง" เราต้องตั้งมั่นคงในความจริงแห่งพระวจนะและรู้กลอุบายของศัตรู(อฟ.6:10-14) และเคลื่อนทัพไปตามการทรงนำและเวลาอขงพระเจ้า
2. ความชอบธรรม (ข้อ 14ข) (The breastplate of righteousness)
พระวจนะกล่าวว่า“...เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก”
ความชอบธรรมเป็นเสมือนเครื่องป้องกันใจของเรา หัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญในร่างกายฉันใด ท่าทีในใจก็สำคัญต่อชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของเราฉันนั้นเพราะเป็นสิ่งที่กำหนดการตอบสนองทุกอย่างของเราต่อพระเจ้า มารซาตานมักล่อลวงใจของคริสเตียนให้กระทำบาป พระวจนะจึงเตือนให้เรามีความชอบธรรมเป็นเครื่องป้องกันจิตใจ
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ กำแพงเมืองจีน หนึ่งในสุดยอดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น กล่าวกันว่าต้องใช้เงินและแรงงานคนจำนวนมหาศาลในการก่อสร้าง ด้วยหวังว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ความยิ่งใหญ่ของกำแพงจะช่วยปกป้องอาณาจักรของจากศัตรูผู้รุกรานได้
แต่ปรากฏว่า ข้าศึกสามารถเข้ามาโจมตีเมืองได้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่ต้องทำลายกำแพงเมืองให้เสียหายแต่อย่างใด …
ข้าศึกสามารถเข้าเมืองได้ด้วยวิธีใด ก็ด้วยวิธีง่าย ๆ คือการติดสินบนทหารยามที่เฝ้าประตูเมืองเพื่อให้เปิดประตูให้
“…ความล้มเหลวของกำแพงเมืองจีนอยู่ที่คน คนไม่ซื่อสัตย์ มักสร้างความเสียหายอันยิ่งใหญ่เสมอ…”
ชีวิตของเราก็เช่นเดียวกัน ความไม่ชอบธรรมในชีวิตของเรา จะนำผลเสียหายมาสู่ชีวิตของเราได้ อย่าปล่อยให้มารมาติดสินบน ใช่เล่ห์กลล่อลวงเราให้หลง เปิดช่องประตูใจให้มารเข้าไปโจมตี แต่จงสวมความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันประตูใจของเรา เอเมนไหมครับ
ในช่วง 40วันที่เราเตรียมใจอธิษฐานเผื่อประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.ถึง 9 พ.ย. 2010นี้ เราจะเป็นคนทหารยามที่เฝ้ายามที่กำแพงอธิษฐานเผื่อ อุดช่องโหว่ที่
ผมเชื่อว่า หลังจากการสัมมนา "Refining Fire for Revival:ไฟชำระสู่การฟื้นฟู" ในวันที่ 15 -17 ต.ค.นี้โดย Dr.Chuck Pierce และทีมงานจาก Glory of Zion คริสตจักรทั่วประเทศไทยจะเห็นการฟื้นฟูจากพระเจ้า
"ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ด้วยไฟแห่งการฟื้นฟู"
3.ข่าวประเสริฐ (ข้อ 15) (The gospel of peace)
พระวจนะกล่าวว่า“และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า” รองเท้าของทหารโรมันในเวลานั้น จะมีสายรัดเพื่อยึดเท้าให้แน่น และที่พื้นรองเท้ามีการตอกตะปูไว้สำหรับยึดกับพื้นดิน เพื่อเวลาทำการสู้รบจะยืนได้อย่างมั่นคง สะท้อนการดำเนินชีวิตที่ยึดมั่นในข่าวประเสริฐ และการประกาศข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขออกไปในทุกที่ทุกแห่ง
ฉะนั้นความงดงามของเท้าผู้เชื่อ คือการสวมรองเท้าแห่งข่าวประเสริฐออกไปตามการประกาศข่าวดีให้กับทุกคน ตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ใน
รม.10:15 และถ้าไม่มีใครใช้เขาไป เขาจะไปประกาศอย่างไรได้ ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา ช่างงามจริงๆ หนอ
อสย.52:7 เท้าของผู้นำข่าวดีมา ก็งามสักเท่าใดที่บนภูเขา ผู้โฆษณาสันติภาพ ผู้นำข่าวดีของเรื่องดี ผู้โฆษณาความรอด ผู้กล่าวแก่ศิโยนว่า "พระเจ้าของเจ้าทรงครอบครอง"
เราต้องเตรียมตัวของเราให้พร้อมในการเป็นผู้ประกาศข่าวดีของ พระเจ้าไปสู่สังคม สวมรองเท้าให้พร้อม พกใบปลิวคำพยาน เตรียมบทเรียนคำสอนให้พร้อม เพราะวันนี้เราจะต้องออกไปประกาศข่าวดีของพระเจ้าไปจนสุดปลายแผ่นดิน
4. ความเชื่อ (ข้อ 16) (The shield of faith)
พระวจนะกล่าวว่า “...จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย” อาวุธชนิดหนึ่งที่มารซาตานใช้โจมตีผู้เชื่อ คือการหลอกลวงและการทำให้สงสัยในพระสัญญา ในความดีงาม และในความรักของพระเจ้า โล่แห่งความเชื่อ จึงสามารถดับศรเพลิงแห่งการโป้ปดนี้ได้ และเมื่อเราเชื่อ เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
มีสุภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า
เขา.. .ผู้สูญสิ้นทรัพย์สินไป เขา..สูญเสียมากเหลือเกิน
เขา... ผู้สูญสิ้นเพื่อนไป เขา..สูญเสียมากกว่า
เขา... ผู้สูญสิ้นความเชื่อศรัทธา เขาผู้นั้น..สูญเสียทั้งหมด
("He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more; He who loses faith, loses all.")
วันนี้ขอให้เรารักษาความเชื่อไว้อย่างเต็มกำลัง จนกว่าจะถึงวันสุดท้าย เอเมนไหมครับ
2 ทธ.4:7 ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว
5. ความรอด (ข้อ 17ก) (The helmet of salvation)
พระวจนะกล่าวว่า“จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ...” ศีรษะเป็นอวัยวะที่สำคัญ เป็นศูนย์รวมความคิดและการสั่งการไปยังร่างกาย พระวจนะให้เรายึดความรอดไว้เป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ คือป้องกันการดำเนินชีวิตของเราให้อยู่ในวิถีของพระเจ้า หากเราตั้งใจว่าจะไม่ยอมสูญเสียความรอด ไม่ยอมทิ้งทางของพระเจ้า แม้เผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย หรือการล่อลวงของมารซาตาน เราก็จะยังคงรักษาความรอดที่พระเจ้าประทานให้แก่เราได้
(จาก Encyclopedia of 15,000 illustrations, #6964)
ที่ประเทศอิตาลี ศิลปินหนุ่มคนหนึ่ง พยายามที่จะแกะสลักหินอ่อน รูปปั้นทูตสวรรค์ ศิลปินหนุ่มคนนี้ ใช้ความพยายามอย่างมาก ลงมือ ลงแรง และใช้เวลายาวนาน เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว ศิลปินหนุ่มคนนี้ก็ได้ ขอให้ ไมเคิลแองเจลโล มาตรวจดู รูปปั้นหินอ่อนอันนี้
ไมเคิลแองเจลโล ตรวจดูอย่างละเอียด ถี่ถ้วน ทุกกระเบียดนิ้ว มันดูเหมือนจะเป็นงานที่สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ แม้แต่นิดเดียว
แต่แล้ว หัวใจของ ศิลปินหนุ่มคนนี้ ก็แทบจะแตกสลาย เมื่อได้ยิน ไมเคิลแองเจลโล พูดบอกว่า “มันขาดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น !”
เวลาผ่านไป ศิลปินหนุ่มคนนี้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ นึกถึงแต่คำพูดของ ไมเคิลแองเจลโล จนเพื่อนของ ศิลปินหนุ่มคนนี้ ต้องไปถาม ไมเคิลแองเจลโล ถึงความหมายของ คำพูดในวันนั้น
ไมเคิลแองเจลโล ตอบบอกว่า “สิ่งที่ขาดเพียงสิ่งเดียว คือชีวิต !”
ผู้ดำเนินชีวิตห่างไกลจากพระเจ้าก็ไม่ต่างกับรูปปั้นที่ขาดชีวิต
วันนี้ขอให้เรามีชีวิตกับพระเจ้า มั่นใจในความรอดที่มาผ่านทางพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ดำเนินกับพระองค์อย่างคนที่รู้จักกันอย่างสนิทสนมแล้วชีวิตของเราจะมีชีวิต ทั้งชีวิตในฝ่ายกายภาพที่สดชื่น เข็มแข็งเสมอยามเผชิญปัญหา และชีวิตฝ่ายวิญญาณ คือ ความรอดที่ได้รับจากพระเจ้า
6. พระวจนะ (ข้อ 17ข) (God’s word: the sword of the Spirit)
พระวจนะกล่าวว่า “...จงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า” การต่อสู้ด้วยพระแสงดาบเป็นภาพการโต้ตอบกลับไป เราต้องโต้ตอบการโจมตีของมารด้วยพระวจนะ คือสัจธรรมความจริงของพระเจ้า ที่ถูกสำแดงผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเราต่อสู้อย่างเต็มกำลังโดยยึดพระวจนะไว้ มารซาตานก็จะพ่ายแพ้ไปในที่สุด (ยก.4:7)
ถึงเวลาแล้วที่คริสตชนต้องตอบโต้กลับ (Strike back!) พญามารให้พ่ายแพ้แตกทัพกลับบ้านเก่า ด้วยการอธิษฐานซึ่งเป็นเสมือนปืนใหญ่ฝ่ายวิญญาณที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในการจัดการกับมาร (อฟ.6:18) เพราะพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ที่กางเขน ได้จัดการมารและประจานมารถึงความพ่ายแพ้ไปแล้ว
ขอคืนพื้นที่ของโลกนี้คืนจากมารที่แอบอ้างครองอยู่ และขอให้แผ่นดินของพระเจ้ามาตั้งอยู่ (มธ.6:10) และเราทั้งหลายจะมีชัยชนะร่วมครอบครองกับพระเยซูคริสต์ ในการเสด็จกลับมาของพระองค์!
ขอบคุณมากนะคะ พระเจ้า อวยพรคะ.
ตอบลบพระเจ้าอวยพรค่ะ ดีมากๆ เลยค่ะ
ตอบลบ