24 เมษายน 2556

ถ้อยคำแห่งการเผยพระวจนะที่เป็นกุญแจสำคัญ

ถ้อยคำแห่งการเผยพระวจนะที่เป็นกุญแจสำคัญ
คือ จงทุบดิน จงเกิดขึ้น และจงไปเถิด!
คำเผยพระวจนะจาก ชัค ดี. เพียซ พร้อมกับคณะ
เรียน บรรดาวิสุทธิชนแห่งการทะลุทะลวง,
เช้าวันอาทิตย์ในขณะที่พวกเรากำลังนมัสการดังงานเฉลิมฉลองอยู่นั้น พระวิญญาณของพระเจ้าก็ได้เริ่มต้นที่จะเร้าขึ้นอย่างรุนแรง
"เรากำลังทุบเพื่อปล่อยเท้าของพวกเจ้าให้เป็นอิสระ"
อาซีแจม อ็อกโตอา ได้ปลดปล่อยภาษาแปลกๆ แล้วข้าพเจ้าก็เริ่มที่จะแปลภาษานั้นว่า
"เท้าทั้งสองข้างของพวกเจ้าได้ถูกฝังเอาไว้ในสถานที่หนึ่งนั้นมานานเกินไปแล้ว เท้าทั้งสองข้างของพวกเจ้านั้นได้เติบโตขึ้นไปพร้อมกับโครงสร้างต่างๆ ของรากที่เราพร้อมแล้วที่จะถอนราก เท้าทั้งสองข้างของพวกเจ้าได้พยายามที่จะอยู่ต่อไปให้นานๆ และไม่อยากจะไป
"ศัตรูนั้นได้พยายามที่จะเทปูนซีเมนต์ลงไปรอบๆ เท้าทั้งสองข้างของพวกเจ้าบางคน เพื่อที่จะให้พวกเจ้านั้นจมลงภายใต้มัน
"แต่เรากำลังลงไปข้างล่างนั้นด้วยพระสิริของเราและเราจะระเบิดดินที่ทับถมอยู่รอบๆ ตัวของพวกเจ้า
"เรากำลังนำค้อนแห่งพระวจนะของเราที่ได้มาถึงพวกเจ้าแล้วในอดีตนั้น และเราก็จะทุบเพื่อปล่อยเท้าของพวกเจ้าให้เป็นอิสระ เราพูดว่าไป ไป ไปเถิด!"
"เราได้ประทับตราพวกเจ้าเอาไว้ในฤดูกาลนี้แล้ว"
เด้บโบร่าห์ เดอการ์ ก็ได้มองเห็นภาพที่เท้าทั้งสองข้างของบางคนในพวกเราได้ถูกฝังเอาไว้ในที่ที่องค์เจ้าชีวิตไม่ได้ปรารถนาที่จะให้พวกเราฝังเท้าเอาไว้ และเป็นฤดูกาลอันแสนเนิ่นนานที่เท้าทั้งสองข้างของพวกเรานั้นได้ถูกทับให้ตรึงอยู่กับที่ด้วยผืนดินที่พวกเรากำลังยืนอยู่ เธอเผยพระวจนะว่า
"แต่เราไม่ได้ปลูกฝังพวกเจ้าเอาไว้ในสถานที่อย่างนั้น และเราได้เรียกพวกเจ้าออกมาในฤดูกาลนี้ เราจะจุดไฟไว้ใต้พวกเจ้า ถ้าจำเป็น และเราจะเป็นเหตุให้พวกเจ้าเคลื่อนไปในวิถีทางต่างๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย และพวกเจ้าจะไม่ถูกทับให้ตรึงอยู่กับที่ที่เราไม่ได้ประทับตราเอาไว้
"ด้วยว่า สิ่งที่เราได้ประทับตราพวกเจ้าเอาไว้ในฤดูกาลนี้นั้น พวกเจ้าก็จะกล่าวว่า "ลูกเป็นของพระองค์ และพระองค์สามารถทำอะไรก็ได้ที่พระองค์ต้องทำกับตัวลูก โอ องค์จอมเจ้านาย ด้วยว่าลูกได้ตั้งหน้าของลูกให้เหมือนกับหินเหล็กไฟในฤดูกาลนี้ และลูกกล่าวว่าลูกจะรับใช้พระองค์"
จงประกาศิตและก็จงประกาศว่านี่เป็นฤดูกาลที่พวกเจ้าจะไม่ถูกทับให้ตรึงอยู่กับที่ที่องค์เจ้าชีวิตไม่ได้ประทับตราพวกคุณเอาไว้เพื่อการนั้น!
"น้ำพุร้อนแห่งพระสิริ"
แอนน์ เท้ท ได้เผยพระวจนะว่า
"เรากำลังนำน้ำพุแห่งพระสิริขึ้นมา เรากำลังนำน้ำพุร้อนแห่งพระสิริที่จะขึ้นมาใต้ตัวของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าก็จะเริ่มต้นที่จะมองจากมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
"องค์เจ้าชีวิตจะยิงพวกเจ้าให้พลุ่งขึ้นมาจากผืนดินและขับพวกเจ้าขึ้นไปสูงถึงกึ่งกลางสวรรค์ แล้วพวกเจ้าก็จะครอบครองโดยมือของเรา
ข้าพเจ้า (ชัค เพียซ) จึงเผยพระวจนะว่า
"และเมื่อเรายกพวกเจ้าขึ้นด้วยน้ำพุร้อนนี้แล้ว พวกเจ้าก็จะเห็นศัตรูทั้งหลายที่ได้จับพวกเจ้าเอาไว้เป็นเชลยนั้น จงรู้สิ่งนี้เถิดว่า น้ำมากหลายที่กำลังเดือดปุดๆ ลึกลงไปข้างล่างนั้น ก็จะพากันลุกขึ้นมาภายใต้ตัวของพวกเจ้าแล้วก็จะดันพวกเจ้าให้พลุ่งออกมา!"
"นี่เป็นฤดูกาลแห่งการทะลุทะลวง"
บ้าร์บบร่า เว้นโทรเบิ้ล ได้เผยพระวจนะว่า
"ถึงแม้ว่าสิ่งที่ได้ยื้อยุดบรรดาน้ำพุร้อนทั้งหลายเอาไว้ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ได้ยื้อยุดพระสิรินั้นเอาไว้ ก็จงรู้เถิดว่าสิ่งที่ได้ยื้อยุดเอาไว้นั้นก็คือ โครงสร้างต่างๆ ของกรอบความคิด ที่เรากำลังมาในชั่วโมงนี้เพื่อที่จะทำลายมันซะ คือ กรอบความคิดต่างๆ ที่ได้เป็นเหตุให้พวกเจ้าต้องยืนอยู่ในสถานที่จำกัดนั้น และที่ได้เป็นเหตุให้พวกเจ้าต้องพลาดสิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้เตรียมไว้ให้กับพวกเจ้า เราพูดว่านี่เป็นฤดูกาลแห่งการทะลุทะลวง เราจะหักทำลายกรอบความคิดเก่าๆ และเราก็จะเป็นเหตุให้พวกเจ้ามองเห็นสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน เราจะเป็นเหตุให้พวกเจ้ามีประสบการณ์กับสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
"นี่เป็นเวลาที่เรากำลังเพิ่มแรงเหวี่ยง จงรู้ไว้เถิดว่าในฤดูกาลนี้ เราจะเป็นเหตุให้ย่างเท้าของพวกเจ้าก้าวขึ้นไปสู่สถานที่ใหม่ เราจะให้พวกเจ้ามีนิมิตที่พวกเจ้าไม่เคยมีมาก่อน เพราะว่าเราไม่เคยมีความมุ่งหมายให้พวกเจ้าอยู่ในสถานที่อันต่ำต้อย แต่จงขึ้นมาบนนี้เถิด แล้วเราจะสำแดงให้พวกเจ้าได้เห็นถึงสิ่งต่างๆ เหล่านั้นที่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเจ้า
"ด้วยว่านี่เป็นฤดูกาลของ "ความจำเป็นที่จะต้องเกิด" และมีบางสิ่งบางอย่างที่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นในชีวิตของพวกคุณ มีบางสิ่งบางอย่างที่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นในแผ่นดินโลก จงรู้ไว้เถิดว่าเรากำลังทำลายกรอบความคิดทั้งปวงเพื่อที่พวกเจ้าจะสามารถก้าวเข้าไปในสถานที่นั้น แล้วพวกเจ้าก็จะสามารถเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเจ้าเพื่ออนาคต"
นี่ไม่ใช่ฤดูกาลที่จะต้องกลัว!
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ข้าพเจ้าก็ได้รับถ้อยคำแห่งการเผยพระวจนะนี้จาก เพ็นนี แจ็คสั้น ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าจะหนุนใจพวกคุณขึ้นได้
"นี่ไม่ใช่ฤดูกาลที่จะต้องกลัว! นี่เป็นฤดูกาลที่จะต้องชื่นชมยินดีที่เรากำลังเคลื่อนมาบนแผ่นดินโลกเพื่อที่จะทำให้เป้าประสงค์ทั้งสิ้นของเรานั้นสำเร็จ เวลาเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญเลย เวลาเหล่านี้ได้ถูกออกแบบมานานแล้วเพื่อที่จะให้มันเกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกตามที่เราได้สัญญาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว วิธีการของเราไม่เหมือนกับวิธีการของพวกเจ้า และความคิดทั้งสิ้นของเรานั้นก็ไม่เหมือนกับความคิดทั้งสิ้นของพวกเจ้า หนทางทั้งหลายของเรานั้นก็อยู่สูงกว่า และกำลังประสบความสำเร็จตามที่เราได้ตั้งมันเอาไว้ให้ไปทำ พวกเจ้าสามารถไว้วางใจได้เลยว่าเรายังคงควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ สิ่งต่างๆ เหล่านั้นไม่เคยหลุดมือของเราไปเลย
"เรารู้ถึงสิ่งที่เราขึ้นมาเพื่อที่จะทำ และเราก็จะทำสิ่งที่จะทำเพื่อที่จะให้สิ่งที่เราได้พูดเอาไว้แล้วนั้นเกิดขึ้น จงจับจ้องอยู่ที่เราเท่านั้น จงเฝ้าดูในขณะที่เราเคลื่อนไปในวันทั้งหลายข้างหน้านี้ เราเคลื่อนไปด้วยความมั่นคงและแน่นอน เราเคลื่อนไปด้วยความมัธยัสถ์ เราจะไม่ให้สิ่งใดเกิดขึ้นมากกว่าสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องเกิด จงอยู่ใกล้ชิดติดกับเราเถิด จงเข้ามาอยู่ใต้ร่มปีกของเราเถิด ด้วยว่าไม่มีที่ไหนที่จะปลอดภัยไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ใต้ร่มปีกของเรานี่แหละ พวกเจ้าก็จะสามารถพักสงบได้ ที่นี่แหละที่พวกเจ้าสามารถจับตาดูและมองเห็นกิจการต่างๆ ที่เราจะทำบนแผ่นดินโลกนี้ พวกเจ้าได้ยินถึงเรื่องของช่วงเวลานั้นที่จะมาถึง ก็นี่แหละเป็นเวลานั้นแล้ว จงมองดูเราทำเถิด"
Blessings,
Chuck D. Pierce
Glory of Zion International Ministries
Email: chuckp@glory-of-zion.org
Website: glory-of-zion.org


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.4windsprayer.com
ที่มา : http://elijahlist.com/words/display_word.html?ID=12060
เอ็ม สุรชัย แปล

19 เมษายน 2556

จุดไฟแห่งการฟื้นฟู

หากเราเฝ้าสังเกตสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำในปีนี้ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่รอคอยอย่างหิวกระหายที่จะเห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้ากำลังจะทำในประเทศไทย เพราะประเทศไทยได้รับคำเผยพระวจนะว่าเป็น ประเทศแห่งไฟ โดย ดร.ชัค เพียร์ซ  ในการประชุมสัมนาคริสตจักรถุงหนังองุ่นใหม่ ที่คริสตจักรใจสมาน สุขุมวิท ซอย 6 วันที่ 24 สิงหาคม 2008 ที่ผ่านมา
จากคำเผยพระวจนะ เป็นการจุดไฟเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูในประเทศไทย  การจุดไฟจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นสิ่งต่างๆ  คนยิวจะจุดไฟที่คันประทีบเพื่อเป็นการเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการพักสงบในวันสะบาโตซึ่งพวกเขาจะใช้เวลาสามัคคีธรรมกับพระเจ้าและสังสรรค์กันในครอบครัว
ช่วงเวลาในเทศกาลต่างๆ จึงเป็นการนัดพบเพื่อจะมีประสบการณ์ใหม่ๆกับพระเจ้า

ในช่วง เทศกาลปัสกา(Passover) ภาษาฮีบรู คือ เพสัค(Pesach)” ในวันที่ 25 มี..-2 เม..13 ที่ผ่านมา  เราได้สัมผัสถึงความรักของพระคริสต์ ชีวิตและชัยชนะ เป็นช่วงเวลาแห่งการระลึกถึงพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ยอมสิ้นพระชนม์ที่กางเขนเพื่อเราและพระองค์ได้ฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมาจากความตายเพื่อประกาศชัยชนะเหนือความบาปความตาย
เมื่อศึกษาจากพระคัมภีร์ สิ่งที่เชื่อมโยงกับปัจจุบันคือ นับจากเทศกาลปัสกา หลังจากที่พระเยซูคริสต์ได้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระองค์ทรงอยู่กับสาวก 40 วัน   และทรงสอนเขาหลังจากที่ทรงฟื้นพระชนม์ (กจ.1:3)   ก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสวรรค์ พระองค์ทรงกำชับให้รอคอยการเสด็จมาขององค์พระผู้ช่วย (กจ.1:4-8) สิ่งนี้เป็นไปตามคำพยากรณ์ของ โยเอล 2:28-29 และสำเร็จในพระธรรมกิจการฯ 

เหล่าสาวกจำนวน 120 คน  มารวมตัวกันที่ห้องชั้นบนด้วยใจหนึ่งเดียวกัน  อธิษฐานกันทุกวันก่อนที่พระวิญญาณจะเทลงมาในทศกาลเพ็นเทคอสต์ (Pentecost) หรือภาษาฮีบรู เรียกว่า ชาวูโอต( Shavuot) (กจ.1:14,2:1)   เห็นได้ว่าเมื่อพระวิญญาณฯเทลงมา คริสตจักรได้รับใช้ในรูปแบบที่เปลี่ยนไปด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณฯ (กจ.6:4-8)  รับใช้อย่างเกิดผล นั่นเป็นสัญญาณแห่งการจุดไฟแห่งการฟื้นฟูของคริสตจักรที่เริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม แคว้นยูเดียและลามไปท่วมโลก
สิ่งเหล่านี้เป็นภาพจริงที่สะท้อนออกจากภาพเงา(Type)ในพระธรรมอพยพบทที่ 19 และ 20 ได้บรรยายถึงเทศกาลเพ็นเทคอสต์  แก่นสาระสำคัญของพระธรรมอพยพ คือ  ปัสกาคือการก้าวออกมาจากความเป็นทาสในอียิปต์แลในวันที่ 50 พวกเขาได้รับประสบการณ์ในการที่พระเจ้าทรงประทานพระบัญญัติ 10 ประการแก่พวกเขาให้ถือรักษา
ภาพเงาในพระคัมภีร์เดิม คือ พระบัญญัติ 10 ประการแห่งความจริง ภาพจริงที่ปรากฏให้เห็นคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ประสาทชีวิต (1 คร. 15:45)
นี่คือจุดบรรจบของคำเผยพระวจนะที่สำเร็จเป็นจริง ภาพเงาในพระคัมภีร์เดิม  มองไปสู่อนาคตด้วยความเชื่อและความหวังใจเล็งถึงพระคริสต์ที่จะมา แต่ภาพจริงที่ปรากฏในพระคัมภีร์ใหม่สำเร็จเป็นจริงตามคำเผยพระวจนะผ่านทางพระคริสต์ที่ทำสำเร็จแล้วที่ไม้กางเขน และพระองค์ประทานพระวิญญาณในเทศกาลเพ็นเทคอสต์ เมื่อเรามองย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ที่ไม้กางเขนด้วยความเชื่อและความหวังใจ เราจะซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ ที่เราได้รับพระเมตตา คือ การละเว้นสิ่งที่เราต้องได้รับคือความบาปความตาย และพระคุณในสิ่งที่เราไม่สมควรได้รับคือความรอด (รม.5:8)  ขอบคุณสำหรับสิ่งที่ต้องตั้งอยู่ในชีวิตของเราคือ ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก ( 1 คร.13:13)

    เทศกาลเพ็นเทคอสต์ ที่เรียกว่า  ชาวูโอต“Shavuot” นี่เป็นชื่อสามัญที่ใช้เรียกเทศกาลนี้ในหนังสือโทราห์ (อพย. 34:22 ;ฉธบ.16:10) ที่เรียกว่า เทศกาลสัปดาห์ เพราะมีขึ้นเป็นเวลา 7 สัปดาห์หนึ่งวันหลังจากเทศกาลปัสกา (7X7=49 วัน) เป็น เทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บเกี่ยว ที่ใช้ชื่อนี้เพราะเทศกาลเพ็นเทคอสต์แสดงถึงการสิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิ (อพย.23:16)  
      เทศกาลปัสกา มีการถวายผลแรกซึ่งเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแต่ในเทศกาลสัปดาห์ พวกเขาได้เก็บเกี่ยวอย่างเต็มขนาดมาถวายให้กับพระเจ้า(ลนต.23:1-11)




เทศกาลปัสกา รับประทานขนมปังไร้เชื้อเป็นเสมือนการชำระชีวิตเป็นเตรียมชีวิตให้บริสุทธิ์ กำจัดเชื้อที่ไม่ดีออกจากชีวิต( 1คร.5:7-8) แต่ในเทศกาลสัปดาห์ คนอิสราเอลได้รับประทานพืชพันธุ์ธัญญาหารและขนมปังที่มีเชื้อที่ฟู เล็งถึงเชื้อการฟื้นฟูของอาณาจักรของพระเจ้า (ลนต.23:15-20,มธ.13:33) การฟื้นฟูใหญ่ในชีวิตของเราจะเต็มขนาดเมื่อผ่านช่วงเวลาแห่งการเตรียมชีวิต !

      คำว่า เพ็นเทคอสต์(Pentecost)  ชื่อนี้เป็นคำภาษากรีกซึ่งพวกเราคริสเตียนส่วนมากรู้จักดี  เป็นคำที่มาจากคำแปลภาษากรีกใน กจ.2:1 , กจ. 20:16  และ 1 คร. 16:8 คำกรีก “pentekostes” หมายความว่า ห้าสิบ ที่ใช้คำนี้เพราะ shavuot เกิดขึ้นหลังจากเทศกาลปัสกา  50 วัน  
หากเรานับเวลาหลังจากวันแรกของเทศกาลปัสกามา 50 วัน  ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 14 ..13 เราจะได้เฉลิมฉลองเทศกาลเพ็นเทคอสต์ การเสด็จลงมาของพระวิญญาณฯ เป็นการเริ่มต้นจุดไฟแห่งช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวพระพรซึ่งเป็นผลแรกของการฟื้นฟูคริสตจักรในสมัยแรก
นอกจากนี้สิ่งที่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญคือช่วง 40 วันหลังจากเทศกาลปัสกา พระเยซูคริสต์ทรงอยู่ ทรงอยู่กับสาวก 40 วัน   และในวันที่พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ (Ascension day) ทรงกำชับถึงพระมหาบัญชาให้กับเหล่าสาวก (มธ.28:19-20)
 ในปี 2013 วันที่รำลึกถึงพระเยซูคริสต์ขึ้นสวรรค์ (Ascension day)จะตรงวันที่คือในวันที่ 7 ..13 ซึ่งเรามีการจัดค่ายประจำปี 2013 "Revival Fire -ไฟแห่งการฟื้นฟู" คริสตจักรแห่งพระบัญชา ในช่วงวันที่ 4-7 พ.ค.13

ผมเชื่อว่าค่ายครั้งนี้จะเป็นการจุดไฟแห่งการฟื้นฟู ขอให้เราได้รักษาชีวิตในการรักษาไฟแห่งการทรงสถิตและส่งต่อการฟื้นฟูไปสู่ผู้อื่น  ไม่ใช่แค่จบลงในค่ายเท่านั้น แต่คาดหวังและเคลื่อนไปสู่วาระเวลาแห่งปีการอัศจรรย์ของพระเจ้า  วันนี้ให้เราเริ่มต้นจุดไฟแห่งการฟื้นฟูใจของเราก่อนเพื่อจะส่งไฟแห่งการฟื้นฟูของพระเจ้าต่อไป

06 เมษายน 2556

คำอธิษฐานอวยพรประจำเดือนอิยาร์(Iyar) 5773

คำอธิษฐานอวยพระพรประจำเดือนอิยาร์ (Iyar) 5773
(เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เม..-9 ..13)

เดือนอิยาร์ เป็นเดือนที่ 2 ตามปฏิทินฮีบรูแบบศาสนา(Ecclesiastical calendar)ต่อจากเดือนนิสาน เดือนแห่งเผ่ายูดาห์ ที่ผ่านมา
ในเดือนอิยาร์นี้เผ่าประจำของเดือน อิยาร์คือ เผ่าอิสสาคาร์และในเดือนที่ 3 คือสิวาน (Sivan) จะเป็นเดือนของเผ่าเศบูลุน หากศึกษาพระคัมภีร์จะพบว่า เมื่ออิสราเอลเคลื่อนทัพออกมาจากอียิปต์ จะเคลื่อนพลเป็นเผ่า และ 3 เผ่าที่นำหน้า นั้นก็คือ เผ่า ยูดาห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุน ให้เรานำคำอธิษฐานอวยพระพรประจำเดือนอิยาร์ มาป่าวประกาศดังนี้
 
1. เดือนแห่งการเจิมแบบอิสสาคาร์ ผู้ที่รู้กาลเวลาของพระเจ้า (1 พศด. 12:32)
เราจึงควรจะต้องรู้และทำความเข้าใจสถานการณ์ต่างๆและความต้องการในสังคมอย่างมีสติปัญญา
พร้อมประยุกต์ใช้ได้ รู้ว่าพระเจ้าให้เรามีส่วนในสังคมอย่างไร เดือนนี้เป็นเดือนที่พระเจ้าจะจัดระบบชีวิตเราให้สอดคล้องตามน้ำพระทัยของพระองค์(อฟ.5:15-17) อัครทูตเปาโลหนุนใจให้เราดำเนินชีวิตด้วยสติปัญญา ฉวยโอกาสเสมอในการทำงานรับใช้พระเจ้า


2. เดือนแห่งการลุกขึ้นฉายแสง(อสย.60:1-2) :
รับการเปิดเผยสำแดงมากขึ้น เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความสว่างและความร้อน สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ฉายแสงออกมาจากชีวิตเราคือ ชีวิตของพระองค์ภายในเรา เราต้องเรียนรู้ที่จะสำแดงชีวิตของพระคริสต์ พระองค์ทรงเป็นความสว่างไปสู่สังคม

3.เดือนที่มีการเยียวยารักษา: ให้ร้องขอการเยียวยาจากพระองค์ เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการเยียวยาให้หายอย่างธรรมชาติ จะมีการค้นพบหนทางใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ เพื่อกำลังใหม่จะสำแดงออกมาให้เห็น เดือนของพระเยโฮวาห์ราฟา พระเจ้าแพทย์ผู้ประเสริฐ (อพย.15:26)จะเริ่มต้นปรากฏตัวให้โลกได้เห็น

4.เดือนแห่งตัวอักษรฮีบรู คือ วาฟ (Vav) :

เป็นตัวอักษรเชื่อม เพราะมันเชื่อมระหว่าเดือนนิสาน เดือนที่แล้วกับเดือนหน้าที่กำลังมาคือเดือนสิวาน นิสานคือเดือนแห่งการไถ่ที่พระเจ้าไถ่ออกจากเป็นทาสในอียิปต์(เทศกาลปัสกา)และเดือนสิวานเป็นเดือนแห่งการให้ พระเจ้าทรงประทานพระบัญญัติ 10 ประการให้เรา ในเทศกาลสัปดาห์(Pentecost) ในพันธสัญญาใหม่พระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธ์ให้กับคริสตจักรครั้งแรก ใน กจ.2 เป็นผลแรก เดือนนี้พระเจ้าจะให้เรารับพระพรอย่างมากมาย ความมั่งคั่งจะเชื่อมกับเดือนนี้ 
ตัวอักษรวาฟ คือ หมุดเต้นท์เป็นอาวุธจัดการศัตรู(วนฉ.4:21) อธิษฐานป่าวประกาศการพิพากษาของพระเจ้าที่ดำเนินการผ่านเรา ให้เราขยายหลักหมุดชีวิตของเราให้กว้างขึ้น(อสย.54:2) พระเจ้าจะขึงชีวิตของเราให้กว้างมากขึ้นอีก

5.เดือนของกลุ่มดาว ทอรัส (Taurus) : เป็นรูปวัวตัวผู้ หมายถึง การมองและการสังเกต การใคร่ครวญ เราต้องรักษาการเคลื่อนไหวของพระเจ้า และเคลื่อนไปกับพระเจ้า

6.
เดือนแห่งจัดการกับอารมณ์ ความคิด จิตใจ ตั้งใจ ความรู้สึก : ต้องแน่ใจว่าทั้งหมดที่กล่าวมาขึ้นตรงกับพระเจ้า จัดการกับอารมณ์ร้ายๆ ความคิดไม่ดี ความรู้สึกที่ทำให้จมลง

7.
เดือนที่เราทำความเข้าใจความลับ :ความลี้ลับที่ไม่เคยปรากฏ (สดด.25:14) พระวจนะบอกเราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางใจผู้ที่ยำเกรงพระองค์ พระองค์มีมิตรภาพที่สนิทสนมและยั่งยืนนานกับคนที่ไว้วางใจในพระองค์และถวายเกียรติพระองค์ด้วย เมื่อเป็นดังนี้ เราจะได้รับการเปิดเผยแบบที่ไม่เคยปรากฏ เมื่อพระองค์วางใจผู้ที่ยำเกรงพระองค์

8.เดือนของการคิดใคร่ครวญ: เราต้องให้พระเจ้าควบคุมกระบวนการทางความคิดของเรา และรับการเยียวยา นี่เป็นเดือนที่พวกเราจะมีความเข้าใจดีขึ้นกว่าเดิม ถึงความล้ำลึกต่าง ของพระเจ้า และเอาตัวเราเองเข้ามาอยู่ในช่วงเวลาเวลาที่เหมาะสมและสมบูรณ์ยิ่งของพระเจ้า ใคร่ครวญพระวจนะเพื่อที่พวกเราจะสามารถเข้าใจถึงความล้ำลึกต่างๆ แห่งพระวจนะนั้นได้

9.
เดือนที่ต้องรับคำแนะนำฝ่ายวิญญาณ :เราต้องรับการเผยพระวจนะบ่อยๆ ทุกๆวัน เพื่อพระองค์จะปลดปล่อยคำแนะนำฝ่ายวิญญาณลงมาเหนือเรา ฝึกที่จะเผยพระวจนะ และรับคำเผยพระวจนะจากพี่น้องของเรา

10.เดือน
ที่เกี่ยวกับไตข้างขวา :
มีสติสัมปชัญญะรู้ผิดรู้ชอบ ความตั้งใจ อารมณ์ความคิด เพราะไตเชื่อมต่อและผลิตสารอะดรีนาลีน ฮอร์โมนตัวนี้ การแพทย์บอกว่า คนที่เครียด คิดมาก กลุ้มใจเศร้าใจ จนเป็นโรคกระเพาะนานวันไปจะมีผลต่อไตขวา ระวังเรื่องอารมณ์ของคุณ

(
สรุปและเรียบเรียงจาก http://arise5.com)